พรีโม ต่อยอด Origin Multiverse โชว์แผนธุรกิจปี 65 “At Your Service Every Moment” ลุยบริการ Living Partner ครบวงจร ตั้งแต่ก่อนสร้างบ้านยันลงทุนบ้านหลังที่ 2

113

มิติหุ้น – “พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น” ในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ต่อยอดแผนเติบโตแบบพหุจักรวาล กางแผนธุรกิจปี 2565 พร้อมแนวคิด “At Your Service Every Moment” พัฒนาบริการ 3 กลุ่มหลัก Pre-Living ​ซื้อขาย-ให้คำปรึกษา/รับบริหารงานก่อสร้าง-ออกแบบตกแต่ง-ขนย้าย, Living บริหารนิติ-บริการความสะอาด, Living&Earning เพิ่มความรู้อสังหาฯ-ดูแลผลตอบแทนการลงทุน หวังขึ้นแท่น Living Partner ดูแลครบวงจรแบบ One-Stop Service อำนวยความสะดวกทุกบริการอสังหาฯ ตอบโจทย์ Ecosystem ของการมีบ้าน ตั้งแต่ Day1 ก่อนสร้างบ้าน จนลงทุนบ้านหลังที่ 2 ตั้งเป้ารายได้โต 2-3 เท่าภายใน 3 ปี พร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯตามแผนงานปลาย Q4/2565

นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้ บริษัทเร่งขับเคลื่อนองค์กรตามแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล หรือ Origin Multiverse ให้บริษัทสามารถแยกและเติบโตแบบคู่ขนานกับบริษัทแม่ เดินหน้าธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มกำลัง ภายใต้แนวคิด At Your Service Every Moment” จัดทัพงานบริการของ 8 บริษัทย่อย ขยายสู่การบริการแบบครบวงจรใน 3 กลุ่มหลัก เป็น One-Stop Service ที่พร้อมให้บริการในทุกช่วงจังหวะของการใช้ชีวิต ให้บริการแก่ทั้งผู้บริโภค ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงอสังหาริมทรัพย์

1.กลุ่ม Pre-Living Services ให้บริการตั้งแต่ก่อนเริ่มอยู่อาศัย ประกอบด้วย ธุรกิจที่ปรึกษาและตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินการโดย บริษัท แพสชั่น เรียลเตอร์ จำกัด (Passion Realtor) ผู้นำด้านการให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาโครงการ บริการทำการตลาด บริการซื้อ-ขายที่ดิน เป็นตัวแทนขายโครงการที่อยู่อาศัย ให้แก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งเป็นผู้ช่วยดูแลให้ผู้บริโภคได้มีบ้านและคอนโดมิเนียมที่ดีตั้งแต่ตอนซื้อ ธุรกิจออกแบบอาคาร โดย บริษัท ยูพีเอ็ม ดีไซน์ สตูดิโอ จำกัด (UPM Design Studio) ให้บริการออกแบบสถาปัตยกรรมทั้งภายนอกและภายในอาคารแก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจบริหารงานโครงการและบริหารงานก่อสร้าง โดย บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด (United Project Management หรือ UPM) ให้บริการบริหารงานโครงการและบริหารงานก่อสร้าง ให้บริการแก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และโครงการก่อสร้างภาครัฐ ธุรกิจที่ปรึกษางานออกแบบ ตกแต่งและขนย้าย โดย บริษัท วายด์ อินทีเรีย จำกัด (Wyde Interior) ให้บริการตกแต่งภายในพร้อมทั้งมีบริการขนย้ายแก่ผู้บริโภคที่ต้องการย้ายจากบ้านเดิมไปยังบ้านใหม่

2.กลุ่ม Living Services ให้บริการเมื่อผู้บริโภคเข้าพักอาศัยแล้ว ประกอบด้วย ธุรกิจบริหารจัดการอาคาร ดำเนินการโดย บริษัท พรีโม แมเนจเม้นท์ จำกัด (Primo Management) และบริษัท คราวน์ เรสซิเดนซ์ จำกัด (Crown Residence) รับบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ดูแลคุณภาพชีวิตของลูกบ้านระหว่างการพักอาศัยทั้งในระดับโครงการทั่วไปจนถึงระดับลักชัวรี ธุรกิจบริการความสะอาดครบวงจร โดย บริษัท อูโน่ เซอร์วิส จำกัด บริการทำความสะอาดครบวงจร ให้บริการแก่ทั้งลูกค้าองค์กรและผู้บริโภคทั่วไป

3.กลุ่ม Living & Earning Services ให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการได้รับประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม เช่น ผลตอบแทนจากการลงทุนคอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ความรู้ด้านการตลาดอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย ธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรมและที่อยู่อาศัย โดย บริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเมนท์ จำกัด ดำเนินงานบริหารจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) ช่วยบริหารจัดการผู้เช่าหรือผู้เข้าพัก สร้างรายได้หรือผลตอบแทนให้เป็นไปตามเป้าหมายของเจ้าของโรงแรมหรือที่พักอาศัย ร่วมวางแผนตกแต่ง จัดหาบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้เช่าหรือผู้เข้าพัก เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้เข้าพัก และธุรกิจอบรมด้านอสังหาริมทรัพย์ โดย บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด จัดคอร์สอบรมให้ความรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์แก่ผู้สนใจ ที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้ตัวเองในการพัฒนาโครงการ การทำการตลาดอสังหาริมทรัพย์

“ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นจะเป็น Living Partner เราวาดผัง Customer Journey ของผู้บริโภคที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยออกมา ว่าตลอดเส้นทางของการมีบ้าน เขาจะต้องเจอกับบริการอะไรบ้าง แล้วพาตัวเรา พาทีมงานมืออาชีพในแต่ละประเภทธุรกิจ เข้าไปปลั๊กอินในบริการเหล่านั้น ให้บริการทั้งผู้บริโภค ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้เกี่ยวข้องในอีโคซิสเท็ม จนทำให้วันนี้ เราสามารถขยายขอบเขตการบริการของพรีโม เซอร์วิส​​ โซลูชั่น ให้ครอบคลุมตั้งแต่ Day1 ก่อนสร้างบ้าน ไปจนถึงวันที่ผู้บริโภคเริ่มลงทุนบ้านหลังที่ 2 เราเชื่อมั่นว่าการเติบโตของเรา จะช่วยให้เราเป็น Living Partner ที่ดูแลผู้บริโภคได้แบบ One-Stop Service สอดคล้องกับแนวคิด At Your Service Every Moment” นางสาวจตุพร กล่าว

นางสาวจตุพร กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องตามทิศทางของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยในช่วงปีนี้ กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มจะมีโอกาสเติบโตสูงคือกลุ่ม Pre-Living หรือกลุ่มก่อนการอยู่อาศัย เนื่องจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายราย มีแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยกันในระดับ New-High ในรอบหลายปี ทำให้มีความต้องการที่ปรึกษาด้านการขาย ผู้บริหารงานโครงการก่อสร้าง ทีม Interior Design เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทจะใช้จุดแข็งใน 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย 1.ความเข้าใจพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ 2.ความพร้อมการบริการครบวงจรแบบ One-Stop Service และ 3.ความเชี่ยวชาญของพนักงานบริการในแต่ละประเภทธุรกิจ เข้าแข่งขันกับตลาดทั้งฝั่ง B2B และ B2C ในช่วงนับจากนี้

จากการเติบโตของบริษัทและแผนขยายงานบริการต่างๆ แบบครบวงจรของบริษัททั้งฝั่ง B2B และ B2C ครอบคลุมตั้งแต่ก่อนสร้างบ้าน ไปจนถึงการลงทุนบ้านหลังที่ 2 ประกอบกับจุดแข็งที่พร้อมเจาะตลาดของบริษัท คาดว่าจะช่วยให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน และมีรายได้เติบโต 2-3 เท่าในปี 2568 เมื่อเทียบกับรายได้ปี 2564 ขณะเดียวกัน บริษัทคาดว่าจะสามารถเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ตามแผนงานในช่วงปลายไตรมาส 4/2565

สำหรับบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด เป็นบริษัทที่ดูแลธุรกิจบริการในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีวิสัยทัศน์หลักในการเป็น Living Partner ที่ดูแลการอยู่อาศัยของผู้บริโภคได้อย่างครบวงจรทุกจังหวะชีวิต

ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย
1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 103 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 1/2565) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN), ดิ ออริจิ้น (The Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 154,900 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจพลังงาน ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp