มิติหุ้น – บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) โดย บล.กสิกรไทย ระบุว่า จากกำไรที่คาดจะค่อย ๆ ดีขึ้นในปี 2565-2566 โดย PTG ยังคงซื้อขายที่ PBV -1 S.D.ค่าการตลาดขายปลีกน้ำมันกลับมาอยู่ในระดับปกติ ขณะที่ปริมาณขายเพิ่มขึ้น YoY/ QoQ ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันจะเติบโตอย่างมากจากแผนการขยายธุรกิจเชิงรุกในปีนี้
ปริมาณการขายนํ้ามันของ PTG กลับมาเติบโตได้ประมาณ 5-8% YoY และ QoO ในไตรมาส 2/2565 เนื่องจากบริษัทฯตัดสินใจปรับ ราคาขายปลีกน้ำมันให้เท่ากับผู้นำตลาดโดยปริมาณการขายที่สูงขึ้น นี้จะส่งผลดีต่อสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A)/ลิตร ที่จะลดลงเหลือ 15-16 บาท/ลิตร
PTG เป็นผู้รับผลประโยชน์สูงสุดจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ทรงตัว/ขาลง เนื่องจากค่าการตลาดจะเพิ่มขึ้น คาดค่าการตลาดที่ 1.7-1.8 บาท/ลิตร ในช่วงที่เหลือของปี
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายธุรกิจกาแฟเชิงรุก ในธุรกิจ non oil โดยจะเพิ่มสาขาร้านพันธุ์ไทย เป็นสองเท่าจาก 300 สาขาเงิน 500 สาขาภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเร่งผลกำไรให้สูงขึ้น
ส่วนการขยายธุรกิจ LPG สําหรับภาคครัวเรือน เป้าหมายอัตรา การเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ช่วง 5 ปีของปริมาณขายที่ 50%
จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายกลางปี 2566 ที่ 17.0 บาท คำแนะนำของเราอิงจากความคาดหวังที่ว่ากำไรของ PTG จะค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2565-2566 ที่ 1,131ลบ.และ 1,704ลย. ตามลำดับ
@mitihoonwealth
