มิติหุ้น-ภาพรวมตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (30พ.ค.-2มิ.ย.65) คาดจะยังเคลื่อนไหวตามปัจจัยเชิงบวกและลบต่างประเทศเป็นหลัก ส่วนปัจจัยในประเทศนั้น มีปัจจัยสนับสนุนการเข้าลงทุนใน “หุ้นเฉพาะกลุ่มฯ” โดยเฉพาะหุ้นที่อิง “มาตรการเปิดประเทศ” โดย วันนี้ “บล.ไทยพาณิชย์” ขอแนะนำ “กลุ่มการแพทย์”
ผู้ป่วยต่างชาติพุ่ง
เนื่องจากผู้ป่วยต่างชาติกลับมาใช้บริการ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV และตะวันออกกลาง ทำให้รายได้จากบริการผู้ป่วยชาวต่างชาติจะเติบโตเพิ่มขึ้น ภายหลังประเทศไทยมีการผ่อนคลายข้อจํากัดการเดินทางเพื่อให้เดินทางเข้าประเทศง่ายขึ้น โดยจะเห็นได้จากจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยอยู่ที่ 266,000 คนใน เดือนเม.ย. (+26% MoM ) ภายหลังจากประเทศไทยยกเลิกข้อกําหนด ตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง เมื่อวันที่ 1 เม.ย.
รวมถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นสูง 253,000 คน ในระหว่างวันที่ 1-18 พ.ค. หลังจากประเทศไทยยกเลิก โปรแกรมเดินทางเข้าประเทศ ( Test&Go Sandbox และ Alternative Quarantine) และการตรวจหาเชื้อ COVID-19 เมื่อ เดินทางมาถึงตั้งแต่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา
BDMS ดาวเด่น
โดยจะเห็นได้จาก “โรงพยาบาลเอกชนไทย” รายงานรายได้จากบริการที่ไม่เกี่ยวกับ COVID-19 ปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ Q4/64 ต่อเนื่องมาถึงQ1/65 และคาดว่าโมเมนตัมจะแข็งแกร่งต่อเนื่องถึงช่วงครึ่งหลังปี 65 ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น แนะนำ “กลุ่มการแพทย์ในฐานะหุ้นปลอดภัย” ไม่ว่าจะเป็น BCH ,CHG ,BDMS ,BH และ RJH
อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัย ยกให้ BDMS เป็นหุ้นเด่น เพราะปี 65 คาดกำไรสุทธิจะเติบโต 39% สู่ 1.06 หมื่นลบ. ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนเกิด COVID-19 โดยอิงกับรายได้ที่เติบโต 12% และ EBITDA margin ที่ 24.7% (เพิ่มขึ้นจาก 23.3% ในปี 64) เนื่องจากเราเชื่อว่า BDMS มีความสามารถในการส่งผ่านต้นทุน เพราะโดยปกติแล้ว ผู้ประกอบการในธุรกิจการแพทย์มีอำนาจในกำหนดราคาสูง
พิกัดราคา 30 บาท
ราคาหุ้น BDMS เทรดสูงกว่าระดับก่อนเกิด COVID-19 อยู่ 4% ยังปรับขึ้นช้ากว่า CHG ซึ่งเทรดสูงกว่าระดับก่อนเกิด COVID-19 อยู่ 36% BH ซึ่งเทรดสูงกว่าระดับก่อนเกิด COVID-19 อยู่ 18% และ BCH ซึ่งเทรดสูงกว่าระดับก่อนเกิด COVID-19 อยู่ 9% ดังนั้นจึงแนะนำ “ซื้อ” BDMS ให้ เป้าหมาย 30 บาท
@mitihoonwealth