วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

151

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่สต๊อกน้ำมันดิบปรับเพิ่ม

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 สัปดาห์ เนื่องจากตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในประเทศปรับตัวสูงขึ้นมาก ส่งผลให้หลายโรงกลั่นเร่งปรับเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อรองรับอุปสงค์ที่ปรับเพิ่มขึ้น

+ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนมีแนวโน้มดีขึ้น หลังจีนเริ่มเปิดเมืองเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมาและผ่อนคลายมาตรการล๊อกดาวน์ในหลายเมืองใหญ่ที่พบผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันในจีนปรับเพิ่มขึ้นราว 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมิ.ย. 65

-/+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยสต๊อกน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 03 มิ.ย. 65 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.0 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 416.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล  สำหรับสต๊อกน้ำมันดีเซลของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 109 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต๊อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 800,000 บาร์เรล สู่ระดับ 218.2 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดคาดอุปทานน้ำมันเบนซินมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. 65 หลังจีนประกาศตัวเลขโควต้าการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปรอบที่ 2 ของปี 65 อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงฤดูกาลขับขี่ที่เริ่มตั้งแต่เดือนมิ.ย.-ส.ค. 65

ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ  เนื่องจากตลาดคาดอุปทานน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. 65 หลังจีนประกาศโควต้าการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปรอบที่ 2 ของปี 65 ขณะที่ตลาดยังคงกังวลอุปทานน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มตึงตัวในฝั่งยุโรป หลังยุโรปมีแผนยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp