มิติหุ้น- บล.กสิืกรไทย ระบุว่า ภาครัฐทยอยปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้นหลายครั้ง ล่าสุดปรับขึ้นมาอยู่ที่ 34.94 บาทต่อลิตร ชนเพดานตรึงราคาที่ 35 บาทต่อลิตรแล้ว โดยปัจจุบันภาครัฐพยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้ปรับตัวขึ้นตามราคาตลาดโลกด้วยมาตรการต่าง ๆ อาทิ
1) การปรับเงินอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 9-10 บาทต่อลิตร ซึ่งจะปรับเปลี่ยนในแต่ละวันเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีก
2) ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลมาที่ 1.34 จากเดิม 5.99 บาทต่อลิตรมีผลถึงเดือน ก.ค.
3) การปรับส่วนผสมไบโอดีเซลลงมาอยู่ที่ 5% (B5) จากเดิม 7% ตั้งแต่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา
มีความเป็นไปได้สูงจะขยับเพดานขึ้นเป็น 38 บาทต่อลิตร
• ด้วยสถานะกองทุนเชื้อเพลิงเริ่มพลิกเป็นขาดทุนสุทธิ -4,480 ล้านบาทในเดือนธันวาคม 2021 และยังขาดทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2022 มีขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น -91,089 ล้านบาท จากภาระการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซธรรมชาติ ขณะที่ปัจจุบันมีการใช้น้ำมันดีเซลเฉลี่ยอยู่ที่ราว 70-80 ล้านลิตรต่อวัน และด้วยการอุดหนุน 9-10 บาทต่อลิตร จะส่งผลให้เงินกองทุนติดลบมากขึ้นวันละราว 700-800 ล้านบาท ด้วยภาระที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน เรามองมีโอกาสสูงที่จะมีการขยับเพดานราคาน้ำมันดีเซลขึ้นเป็น 38 บาทต่อลิตรในไม่ช้านี้
การปรับเพดานราคาเป็นผลบวกต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน
• การขยับเพดานราคาขายปลีกดีเซลส่งผลเชิงบวกต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน (OR, PTG, SUSCO) โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อ PTG ซึ่งมีสัดส่วนปริมาณจำหน่ายน้ำมันดีเซลสูงที่สุดในกลุ่มด้วยสัดส่วน 70% จะช่วยลดแรงกดดันต่อค่าการตลาดน้ำมัน ทำให้มีช่องว่างในการขยับราคาขายปลีกมากยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับแนวโน้มปริมาณการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามกิจกรรมการเดินทางและขนส่งจากการเปิดเมือง จะส่งผลให้แนวโน้มผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น
จึงแนะนำหุ้นเด่น OR (“ซื้อ”, มูลค่าเหมาะสม 31.50 บาท) และ PTG (“ซื้อ”, มูลค่าเหมาะสม 16.70 บาท)
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp
