AQUA คาด ออกหุ้นกู้ 1 พันลบ. พร้อมแจกดอกเบี้ยคงที่ 5.75% เจาะนักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่ ซื้อขาย 18-20 ก.ค. นี้

94

มิติหุ้น – นายชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ได้เผยว่าปัจจุบันบริษัทฯวางแผนการใช้เงินทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยคาดว่าจะออกและเสนอขาย “หุ้นกู้มีประกันของบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน” (“หุ้นกู้”) มีอายุ 2 ปี 6 เดือน ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.75% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ จำนวนที่เสนอขายคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 1,000,000,000 บาท (หนึ่งพันล้านบาท) จะกำหนดวันจองซื้อในระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม 2565 นี้ ผ่านนายหน้าซื้อขายตราสารหนี้ คือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอเชีย เวลท์ จำกัด ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้คือบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) นายทะเบียนหุ้นกู้ คือ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) และมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ คือ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่น filing และขออนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ในการเสนอขายตราสารหนี้ในครั้งนี้ บริษัทฯมีความต้องการเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้น และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน

บริษัท AQUA ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกหุ้นกู้อยู่ในอันดับ “BBB-” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา

นายชัยพิพัฒน์ กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ในการขายหุ้นกู้ในครั้งนี้เพื่อนำเงินที่ได้ไปชำระคืนหนี้ของหุ้นกู้รุ่น AQUA22DA และเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจใหม่อย่าง Fintech ที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยตั้งเป้าว่าจะขยายพอร์ตสินเชื่อเป็น 2,000-5,000 ล้านบาท และใช้เพื่อเป็นเงินลงทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจภายในของบริษัทและบริษัทย่อยต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ AQUA ยังมีแผนพัฒนาต่อยอดธุรกิจ Mega Trend ในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม ตั้งเป้าสร้างสัดส่วนรายได้จากธุรกิจกลุ่มใหม่ให้มากขึ้นหรือมากกว่าที่บริษัทเคยมีมา เป็นรายได้ New S-Curve รวมทั้งยังเตรียมพัฒนาให้ธุรกิจและ assets ที่มีอยู่กลับมาเป็นตัวทำรายได้ระยะยาวให้บริษัทได้ตามเดิม”

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp