มิติหุ้น- โดยบล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางธปท.ได้จัดประชุมร่วมกับนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้เปิดเผยถึงมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปจากเดิม ดังนี้
- เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวสู่ระดับก่อน COVID ในปลายปีนี้-ต้นปีหน้า และโตตามแนวโน้มเดิมในปีหน้า
– คาด GDP ปี 65 จะเติบโตเร่งตัวขึ้นจากเดิม +3.2% เป็น +3.3%
– ขณะที่ GDP ปี 66 มีแนวโน้มชะลอตัวจากเดิม +4.4% เหลือ +4.2%
- คาดการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวช่วยหนุนดุลบัญชีเดินสะพัดพลิกจากขาดดุลเป็นเกินดุลอีกครั้งในปีหน้า
– ปรับประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ขึ้นจาก 5.6 เป็น 6 ล้านคน
– ยังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีหน้าที่ระดับ 19 ล้านคน
- แรงกดดันภาวะเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะเร่งตัวขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก
– คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 65 จะเพิ่มขึ้นเป็น +6.2% จากเดิม +4.9%
– ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปี 65 ก็เพิ่มขึ้นเป็น +2.2% จากเดิม +2%
- กรรมการ กนง. เริ่มแสดงท่าทีเชิงนโยบายว่าเห็นควรที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศเร็วกว่าเดิม
– การประชุม กนง. ล่าสุดมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ตามเดิม
– แต่มีกรรมการเสียงข้างน้อย 3:4 เสียง เห็นควรให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
ความเห็น
- กนง. มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาด แต่มีความกังวลมากขึ้นต่อแรงกดดันภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น รวมทั้งการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed เห็นได้จากการประชุม กนง. ครั้งล่าสุดที่กรรมการเริ่มเสียงแตก มีกรรมการส่วนน้อยเห็นควรให้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว จากเดิมที่ในการประชุมครั้งก่อนกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
- จากแนวโน้มดังกล่าว เรามองว่ามีหุ้นที่ได้รับอานิสงส์เชิงบวก ได้แก่ 1) การท่องเที่ยวฟื้น เราชอบ ADVANC (FT=240บ.), AOT (CT=75บ.), BDMS (FT=29.50บ.), CPALL (FT=72บ.); 2) ดอกเบี้ยขาขึ้น เราชอบธนาคารที่เน้นปล่อยกู้ลูกค้าขนาดใหญ่ ซึ่งมีความเสี่ยงด้านสินเชื่อต่ำ เช่น BBL (FT=163บ.) รวมทั้งหุ้นกลุ่มประกัน เช่น TIPH (CT=77.5บ.), TQM (FT=63บ.); 3) วิถีชีวิตที่คืนสู่ปกติ เราชอบ BEM (CT=10บ.), KAMART (CT=6.2บ.), OR (FT=28.75บ.); 4) ค่าเงินบาทอ่อน เราชอบ ASIAN (CT=20บ.), CPF (CT=29.75), TU (FT=22บ.)
@mitihoonwealth
