“ออริจิ้น” โชว์ยอดขายครึ่งปีแรก 65 กวาด 17,700 ล้าน ทะลุ 51% ของเป้าทั้งปี ครึ่งปีหลังเปิดคอนโด-บ้านเพิ่มอีก 20 โครงการ มูลค่า 26,500 ล้าน”

81

มิติหุ้น  –  นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 (ม.ค.มิ.ย.2565) บริษัทมียอดขายสะสมจากโครงการที่อยู่อาศัยในเครือทั้งสิ้น 17,772 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ถึงกว่า 13% และคิดเป็น 51% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 35,000 ล้านบาท

จากยอดขายดังกล่าว แบ่งเป็นยอดขายจากกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม 73% กลุ่มโครงการบ้านจัดสรร 27% หากแบ่งตามสถานะโครงการ มีสัดส่วนยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) 61% และจากกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขายหรืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (On-going) ราว 39% หากนับเฉพาะยอดขายในช่วงไตรมาส 2/2565 (เม.ย.มิ.ย.2565) บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึงกว่า 9,623 ล้านบาท นับเป็น All Time High ใหม่ ของบริษัท 

ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่สามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมเจาะตลาดผู้บริโภค Gen Y ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น (Origin Plug & Play Sirindhorn Station) และออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น (Origin Plug & Play Nonthaburi Station) มียอดขายสะสมสูงกว่า 70% และโครงการคอนโดมิเนียมเจาะตลาดผู้บริโภคไฮเอนด์ โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์ (So Origin Kaset Interchange) มียอดขายสะสมสูงกว่า 90% ขณะเดียวกัน โครงการใหม่ซึ่งเจาะตลาดผู้บริโภค Niche ในแถบเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างบริกซ์ตัน แคมปัส บางแสน (Brixton Campus Bangsaen) ก็สามารถปิดการขาย (Sold Out) ได้อย่างรวดเร็วใน เดือน “แม้ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์, บริกซ์ตัน รวมถึงโซ ออริจิ้น จะเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในปีที่แล้วและปีนี้ แต่เรายังได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพราะเราทำการบ้านอย่างหนักเรื่อง Customer Insight ปรับตัวเร็ว ปรับตัวไว และพัฒนาแต่ละโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดยุคใหม่ ทั้งการทำห้อง Duo Space เพดานสูง 4.เมตร เพิ่มความรู้สึกโอ่อ่า กว้างขวางในการใช้ชีวิต การเปิดตัวคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ในหลากหลายทำเล ไปจนถึงการออกแคมเปญสร้างสีสันและกระตุ้นตลาดอย่าง Multiverse of Sales และ โปรแร๊ง เกินปุยมุ้ย ที่สยามพารากอน เพิ่มโอกาสการเข้าถึงคอนโดมิเนียมคุณภาพ ในราคาจับต้องได้ ให้แก่ผู้บริโภค” นายพีระพงศ์ กล่าว

นายพีระพงศ์​ กล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 นั้น บริษัทยังคงเฝ้าติดตามหลากหลายประเด็นที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตของผู้คน สภาพเศรษฐกิจ และสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง อาทิ การแพร่ระบาดและความรุนแรงของ COVID19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.และ BA.5 สถานการณ์เงินเฟ้อ การปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ดี บริษัทเชื่อมั่นว่าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ยังคงเดินหน้าอย่างจริงจังในการรับมือกับปัจจัยทั้งหมดข้างต้น ขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคในหลายเซ็กเมนท์ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากอัตราการดูดซับของโครงการในหลายทำเล ที่ยังคงมีแนวโน้มที่ดี

ทั้งนี้ บริษัทพร้อมเดินหน้าเปิดโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมในครึ่งปีหลังอีก 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 26,500 ล้านบาทตามแผน แบ่งเป็น กลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม 10 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 15,600 ล้านบาท กระจายตัวทั้งตลาดคอนโด Gen Z, Gen Y, ไฮเอนด์ ไปจนถึงตลาดซูเปอร์ลักชัวรี และกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร 10 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 10,900 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการรุกหนักในช่วงไฮซีซั่น หลังจากที่ครึ่งปีแรกเปิดตัวใหม่ไปเพียง โครงการ

จากการติดตามสถานการณ์ให้พร้อมปรับตัวกับทุกปัจจัยภายนอก และความพร้อมในการบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัทมั่นใจว่า จะสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 35,000 ล้านบาท และสร้างสถิติ All Time High ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp