กสิกรไทย ขยาย Super Ecosystem กับพันธมิตร 7 กลุ่มธุรกิจ ตอบโจทย์ลูกค้ากว่า 20 ล้านราย ย้ำความสำเร็จด้วย 20 รางวัลระดับโลก

84

มิติหุ้น – กสิกรไทย รุกต่อเนื่องใช้เทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพบริการ ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำใน 7 กลุ่มธุรกิจ ขยายเครือข่าย “Super Ecosystem” เชื่อมโยงช่องทางบริการทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคไฮบริด (Hybrid Life) โดยลูกค้าปัจจุบันกว่า 20 ล้านราย สามารถใช้บริการผ่านสาขาธนาคารกว่า 830 แห่ง เครื่องฝากถอนโอนกว่า 10,970 เครื่อง จุดให้บริการเคแบงก์ เซอร์วิสกว่า 2.2 แสนจุดทั่วประเทศ และ K PLUS ที่เป็นแพลตฟอร์มหลักเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้เต็มรูปแบบ ย้ำความสำเร็จด้วย 20 รางวัลระดับโลกใน 7 เดือนแรกของปี 2565 รวมถึงได้รับโหวตเป็นธนาคารหลัก 1 ใน 10 ของเอเชียแปซิฟิกและเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยที่ลูกค้าเลือกใช้บริการประจำ และรางวัล Best Retail Bank in Thailand ซึ่งได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 13

ดร. พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารมีเป้าหมายเพิ่มศักยภาพการให้บริการทางการเงินกับลูกค้าในรูปแบบผสมผสานทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ (Omni-Channel) เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Experience) ครอบคลุมทุกความต้องการในทุกที่ ทุกเวลา เน้นความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมกันสร้าง Super Ecosystem ทำให้ลูกค้าได้ใช้บริการทางการเงินรวมถึงการใช้จ่ายในไลฟ์สไตล์ต่างๆ อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย อีกทั้งทำให้ธนาคารขยายบริการไปสู่กลุ่มลูกค้าคนตัวเล็กที่ต้องการใช้บริการทางการเงินได้มากยิ่งขึ้น

สำหรับกลุ่มพันธมิตรที่ธนาคารได้ร่วมกันขยายเครือข่ายการให้บริการทางการเงิน ประกอบด้วย 7 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1) ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซและบริการชำระเงิน (e-Commerce and Payment) เช่น Shopee, Blue CONNECT 2) กลุ่มโซเชียล มีเดีย (Social Media) เช่น บริการโซเชียลแบงกิ้งผ่าน LINE BK 3) กลุ่มให้บริการทางการเงิน เช่น จุดบริการเคแบงก์ เซอร์วิส (KBank Service) สำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านพาร์ทเนอร์ของธนาคาร มีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ที่ลูกค้าใช้ชีวิตประจำวัน 4) กลุ่มการศึกษา เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนาแอปฯ CU NEX 5) กลุ่มสาธารณสุข ร่วมมือในการพัฒนา Healthcare Digital Platform ให้กับโรงพยาบาลรัฐ เพิ่มศักยภาพบริการการแพทย์วิถีใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างทั่วถึง เชื่อมโยงระบบชำระเงินและบริการทางเงินต่างๆ เช่น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลชลบุรี สถาบันประสาทวิทยา และแอปฯ หมอ กทม.  6) กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้านพลังงานสะอาด เช่น ความร่วมมือกับพันธมิตรให้เช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในราคาประหยัดผ่าน K+ market การร่วมมือกับค่ายรถยนต์ให้สินเชื่ออัตราพิเศษแก่ลูกค้าที่กู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า การผนึกพันธมิตรโครงการบ้านและบริษัทนวัตกรรมสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ลูกค้าและผู้ประกอบการเพื่อการติดตั้งโซลาร์เซลล์ 7) กลุ่มท่องเที่ยว ร่วมกับบริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พัฒนาแพลตฟอร์มบริการด้านการท่องเที่ยว “ทักทาย” (TAGTHAi)

ดร. พิพัฒน์พงศ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน ธนาคารมีลูกค้ากว่า 20 ล้านราย โดยลูกค้าสามารถใช้บริการที่สาขากว่า 830 แห่ง เครื่องฝากถอนโอน (K-ATM / K-CDM) กว่า 10,970 เครื่อง และจุดบริการ “เคแบงก์ เซอร์วิส” กว่า 2.2 แสนจุดทั่วประเทศ อยู่ในพื้นที่ให้บริการของพันธมิตรที่มีเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ เช่น ไปรษณีย์ไทย Big C ตู้บุญเติม CJ Express ร้าน 7-Eleven และอื่นๆ ให้ลูกค้าทำธุรกรรมทั้งฝาก ถอน จ่ายบิล และยืนยันตัวตนเพื่อเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ K-eSavings ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องมาสาขาเพียงอย่างเดียว

ในขณะที่ธนาคารต้องการให้ K PLUS เป็น “Digital Lifestyle Ecosystem” ที่ไม่ได้จำกัดแค่การใช้งานใน K PLUS เท่านั้น แต่พัฒนาต่อยอดให้เป็น Open Banking Platform เต็มรูปแบบ เชื่อมต่อบริการของธนาคารกับแอปฯ ของพันธมิตรได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้ลูกค้าใช้จ่ายในแอปฯ ต่างๆ ผ่าน K PLUS โดยไม่ต้องสลับแอปฯ ไปมา นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถใช้บริการยืนยันตัวตนผ่าน K PLUS (Authentication with K PLUS) เพื่อสมัครใช้บริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของพันธมิตรได้ด้วย

ความร่วมมือดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการผลักดันบทบาทของธนาคารในการเป็นผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาค (Modern World Class Technology Capability) โดยล่าสุดได้รับรางวัลจากสถาบัน The Asian Banker จากผลโหวตเป็นธนาคารหลัก 1 ใน 10 ของเอเชียแปซิฟิกและเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยที่ลูกค้าเลือกใช้บริการประจำ รวมถึงได้รับรางวัล Best Retail Bank in Thailand เป็นปีที่ 13 ติดต่อกัน ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2565 ธนาคารสามารถกวาด 20 รางวัลใหญ่ จาก 4 เวทีระดับโลก เช่น

  • รางวัล Best Retail Bank for Digital CX-Thailand จากสถาบัน The Digital Banker
  • รางวัล Best Service Provider-Transaction Bank จากสถาบัน The Asset Triple A
  • รางวัล Best Digital Collaboration โดย LINE BK จากสถาบัน The Asset Triple A
  • รางวัล Highly Commended- Excellence in Omni-Channel Integration โดย K CHECK ID จากสถาบัน Retail Banker International
  • รางวัล Highly Commended- Trailblazing Use of AI or Machine Learning in Financial Services โดย LINE BK และโครงการ Digital Commercial Loan สำหรับร้านค้า Shopee จากสถาบัน Retail Banker International

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp