ไทยพาณิชย์ – VISTEC เปิดโครงการ Mission X รุ่นที่ 4 หนุนผู้นำอุตสาหกรรมค้าส่ง-ค้าปลีก นำดิจิทัลเร่งเสริมศักยภาพองค์กร

47

มิติหุ้น  –  ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ สถาบันวิทยสิริเมธี หรือ VISTEC สานต่อภารกิจ “MISSION X” The Boot Camp of Advanced Corporate Transformation รุ่นที่ 4 หลักสูตรลับคมวิสัยทัศน์สำหรับผู้นำองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่มุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมไทยด้วยการเปลี่ยนผ่านทางด้านดิจิทัล มุ่งเน้นสร้างการเติบโตที่พุ่งทะยานและรักษาการเติบโตให้ธุรกิจได้ยืนหยัดท่ามกลางความท้าทายทุกรูปแบบ โครงการ Mission X รุ่นที่ 4 ครั้งนี้ จัดขึ้นสำหรับผู้ประกอบการชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีก-ค้าส่ง-ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครวมกว่า 50 คน จาก 27 บริษัทชั้นนำ ด้วยเนื้อหาหลักสูตรที่เจาะลึกทางด้านเทคโนโลยีที่สำคัญต่อการเสริมประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมฯ พร้อมด้วยกรณีศึกษาจากซีอีโอชั้นนำระดับประเทศ และการให้คำปรึกษาพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัวร่วมพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ดิจิทัลขององค์กรเพื่อนำไปใช้งานจริง โดยมี ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานหลักสูตร Mission X ดร.ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wholesale ธนาคารไทยพาณิชย์ และ รศ.ดร.สรณะ นุชอนงค์ คณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันวิทยสิริเมธี ร่วมพิธีเปิดและเป็นวิทยากรในหลักสูตร

 

ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี กล่าวว่า ในโลกปัจจุบันที่อยู่ในยุค 4.0 และเป็นยุคที่เรียกว่า “Data is King” ที่ปัญญาประดิษฐ์และข้อมูลจำนวนมากมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตและธุรกิจ ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัลเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด เมื่อบทบาทของดิจิทัลมีมากขึ้นเรื่อยๆ และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศของเราให้ก้าวหน้าในทุกมิติ ภาคธุรกิจจึงไม่อาจต้านทานต่อแนวคิดทางด้าน Digital Transformation การใช้เทคโนโลยีเพื่อยกประสิทธิภาพธุรกิจ รวมทั้งสร้างโอกาสในการเข้าถึงและเป็นเจ้าของข้อมูลจำนวนมหาศาลที่จะช่วยพัฒนาการเติบโตของธุรกิจให้ทัดเทียมและแข่งขันได้ โครงการ Mission X ในรุ่นที่ 4 นี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ VISTEC ยังคงมุ่งมั่นขยายกรอบแนวคิดทางด้านดิจิทัลไปยังกลุ่มผู้นำองค์กรในอุตสาหกรรมค้าปลีก-ค้าส่ง-ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งเป็นอีกฟันเฟืองสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากที่สุด ทั้งยังอยู่ระหว่างการรับมือกับความท้าทายทางด้านต้นทุนต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเชื่อมั่นว่าหลักสูตร Mission X จะทำให้ทุกท่านมีความเข้าใจในพลังแห่งเทคโนโลยีแขนงต่างๆ อาทิ AI, Blockchain, IoT, แนวคิดโลกเสมือน และ Metaverse และสามารถนำไปใช้ในธุรกิจได้อย่างถูกต้องเหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้องค์กร และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นกับธุรกิจ และเสริมศักยภาพในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ในระยะยาว”

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานหลักสูตร “Mission X” The Boot Camp of Advanced Corporate Transformation กล่าวว่า “จากความสำเร็จของหลักสูตร Mission X ที่ผ่านมาทำให้เกิดการขยายผลอย่างต่อเนื่องจนเดินทางมาสู่รุ่นที่ 4 ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของโครงการในการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการในการปรับตัวเพื่อให้สามารถเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ได้อย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบันเราต่างปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก และไม่ว่าเราจะวิ่งเร็วเท่าไรก็ยังช้าไปเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น การปรับตัวด้วย Digital Transformation จึงกลายเป็นหัวใจของความสำเร็จที่ผู้ประกอบการต้องใส่ใจและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง และสิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้น คือการปลูกฝัง Digital Mindset และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนให้บุคลากรขององค์กรพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นหัวใจหลักของหลักสูตร Mission X และในระหว่างนี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังเปิดประตูสู่กันอีกครั้ง การท่องเที่ยวเริ่มคึกคัก เป็นโอกาสสำคัญของธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกที่จะปรับตัวให้พร้อมเพื่อรองรับกำลังซื้อที่จะกลับมา หวังว่าโครงการ Mission X จะมีส่วนช่วยจุดประกายความคิดให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปต่อยอดสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยปลดล็อคธุรกิจจากกับดักความสำเร็จในอดีต และนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตแบบ Exponential ให้พร้อมแข่งขันอย่างเต็มศักยภาพ”

ดร. ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wholesale และ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในหลากหลายรูปแบบ แต่ในอนาคตอันใกล้ยังมีปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมอีกหลายประการที่กลุ่มผู้ค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคจะต้องรับมือและทำการปรับธุรกิจให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ อาทิ สังคมผู้สูงอายุ เทรนด์สุขภาพ การยกระดับความสามารถทางอีคอมเมิร์ซ การบริหารจัดการดาต้า รวมไปถึงยุคแห่ง Metaverse ที่ทั้งโลกต้องปรับตัวให้เท่าทัน ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปี 2565 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากข้อมูล EIC ระบุว่ามูลค่าธุรกิจค้าปลีกในปี 2565 จะกลับมาขยายตัวอยู่ที่ราว 11%YOY เป็น 3.45 ล้านล้านบาท จากการผ่อนคลายการควบคุมโรค การเพิ่มขึ้นของรายได้ภาคเกษตร และการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว อีกทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันได้ในเวทีโลก อย่างไรก็ตาม การเตรียมรับมือกับภาวะผันผวนที่เกิดจากปัจจัยภายนอกที่กระทบต่อต้นทุนพื้นฐานของธุรกิจเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมพร้อม  โครงการ Mission X โดยธนาคารไทยพาณิชย์ และ VISTEC จึงได้เตรียมหลักสูตรและเนื้อหาในโครงการสำหรับการอบรมในรุ่นที่ 4 นี้ ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับคณะผู้นำองค์กรจากกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีก-ค้าส่ง-ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค มุ่งเน้นการบ่มเพาะวิสัยทัศน์ทางด้านดิจิทัล ด้วยการแนะนำเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก และการสร้าง New S-Curve ให้ธุรกิจ การรับฟังกรณีศึกษาจากซีอีโอชั้นนำในธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศที่มาให้ข้อมูลและตอบคำถามเกี่ยวกับแนวทางการปรับองค์กรให้ประสบความสำเร็จ และส่วนที่สำคัญที่สุดของโครงการ Mission X  คือผู้เข้าร่วมทุกท่านจะได้พัฒนาออกแบบแผนยุทธศาสตร์ดิจิทัลเพื่อนำไปใช้งานจริงในองค์กรภายใต้การให้คำปรึกษาพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจแบบตัวต่อตัว ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำพาธุรกิจก้าวข้ามขีดความสามารถด้วยศักยภาพใหม่ๆ พร้อมเติบโตต่อเนื่องได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ธนาคารไทยพาณิชย์ และ VISTEC จะยังคงเดินหน้าขยายผลหลักสูตร “Mission X” The Boot Camp of Advanced Corporate Transformation ไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่สำคัญของประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับศักยภาพของภาคธุรกิจไทยและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ก้าวหน้าอย่างแข็งแกร่งต่อไป

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp