วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

84

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น จากความกังวลต่ออุปทานตึงตัว ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น สืบเนื่องจาก ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยหวังที่จะโน้มน้าวกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อผ่อนคลายราคาน้ำมันในตลาด แต่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันไม่ได้ให้คำมั่นชัดเจนที่จะเพิ่มการผลิตแต่อย่างใด ประกอบกับค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาถูกลง และเพิ่มความดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินในสกุลเงินอื่นให้มาสนใจลงทุนในสัญญาน้ำมันดิบมากขึ้น

+ บริษัท ก๊าซพรอม พีเจเอสซี ในประเทศรัสเซียประกาศภาวะสุดวิสัย (Force Majeure) ในการตัดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับผู้ซื้อในยุโรป ส่งผลกดดันอุปทานให้ตึงตัวมากขึ้น ซึ่งหลายฝ่ายยังคงเชื่อการระงับการส่งก๊าซธรรมชาติไปทางยุโรปยังคงต่อเนื่องถึงแม้การซ่อมบำรุงท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 จะเสร็จสิ้นในวันที่ 21 ก.ค. 65

– หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 15 ก.ค. 65 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับตัวสวนทางลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นในประเทศมาเลเซียเนื่องจากการคลายมาตรการปิดเมือง อย่างไรก็ตามความกังวลต่อนโยบายในการลดการสนับสนุนราคาน้ำมันเบนซินในประเทศอินโดนีเซียเป็นปัจจัยกดดันอุปสงค์

ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานจากประเทศเกาหลีใต้ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศเวียดนาม

 

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp