GPI มั่นผลงานครึ่งปีหลังสดใส หนุนรายได้ปี 65 โตทะลุ 20%

66

มิติหุ้น  –  นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ผู้นำสร้างสรรค์การจัดกิจกรรมให้บริการข่าวสาร ข้อมูล สาระ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความบันเทิงที่น่าประทับใจตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ยานยนต์ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ คาดว่าจะสามารถเติบโตที่ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว หลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เกิดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น รวมถึงการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบได้สร้างความคึกคักให้กับธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโดยรวม จึงเป็นจังหวะสำคัญที่บริษัทฯ จะขยับกลยุทธ์ทางธุรกิจขยายการรับงานในธุรกิจเดิม พร้อมมองหาโอกาสต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ธุรกิจงานพิมพ์และธุรกิจจัดงานอีเวนต์ ซึ่งเคยชะลอตัวในช่วง COVID-19 ปัจจุบันมีความคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน และจะเป็น กลุ่มธุรกิจหลักที่ผลักดันการเติบโตของรายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยธุรกิจงานพิมพ์ในปัจจุบันมีงานที่รอส่งมอบในมือจำนวนมาก

“ประเมินว่าภายในสิ้นปีนี้บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากธุรกิจงานพิมพ์กว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากได้มุ่งเน้นทำการตลาดเชิงรุกเข้าหาลูกค้า ประกอบกับงานพิมพ์ที่ลูกค้าเคยชะลอการตัดสินใจในช่วง COVID-19 ได้กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบันคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯ มีความพร้อมในด้านเครื่องจักรและกำลังคนสำหรับธุรกิจการพิมพ์ เพื่อรองรับออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้และการขยายฐานลูกค้าไปสู่งานพิมพ์แพ็กเกจจิ้งและงานพิมพ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการขายที่เกี่ยวกับรถยนต์มากขึ้น เพราะเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี” นายจาตุรนต์ กล่าว

นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ GPI กล่าวว่า ในส่วนธุรกิจจัดงานอีเวนต์ คาดว่าจะเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งปีหลังนี้ หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ลดความรุนแรงลง ทำให้บริษัทฯ เร่งเดินหน้าจัดงานอีเวนต์ได้มากขึ้น โดยมุ่งเน้นต่อยอดความเชี่ยวชาญของ GPI ในฐานะผู้จัดงานแสดงสินค้าด้านยานยนต์ระดับภูมิภาค ขยายไปสู่ผู้จัดอีเวนต์และการแข่งขันกีฬาในรูปแบบ Sport and Entertainment เต็มตัว อาทิ การจัดแข่งไตรกีฬา แข่งรถ รายการกอล์ฟ ฯลฯ รวมทั้งมองโอกาสขยับเข้าสู่การจัดงานที่เป็นไลฟ์สไตล์อย่างเช่น คอนเสิร์ต งานเทศกาล จัดงานประชุม เป็นต้น

ดังนั้น มั่นใจว่าภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2565 จะมีรายได้เติบโต 20% หรือไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 505.16 ล้านบาท เป็นผลมาจากกลุ่มธุรกิจหลักที่กลับมาดำเนินงานได้ตามปกติ การรับรู้รายได้ของธุรกิจโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะแปรรูป และกลยุทธ์ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งแบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1) Event, Exhibition & Festival กลุ่มธุรกิจงานอีเวนต์ นิทรรศการ และเทศกาล 2) Lifestyle Media + News กลุ่มธุรกิจสื่อไลฟ์สไตล์และข่าวสาร 3) Award & Trophy กลุ่มธุรกิจงานประกาศรางวัล 4) Sport & Competitions กลุ่มธุรกิจกีฬาและจัดการแข่งขัน 5) Printing & Packaging กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ 6) E-Commerce & Mobile App & Others กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แอปพลิเคชัน และอื่นๆ

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp