“SCM” ดีเดย์ปล่อยสินเชื่อ ส.ค. นี้ ภายใต้บริษัท “จัดให้ ลิสซิ่ง” คาด 3 ปี พอร์ตสินเชื่อแตะ 1 พันลบ.

192

มิติหุ้น-SCMหรือ บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ประกาศเดินเกมรุก ลุยธุรกิจสินเชื่อภายใต้ “จัดให้ ลิสซิ่ง” ส.ค.นี้ พร้อมวางเป้าพอร์ตปล่อยสินเชื่อภายใน 3 ปีข้างหน้า(2565-2567) แตะ 1,000 ล้านบาท ส่งซิกปีแรก (2565) ดีเดย์จ่อปล่อยให้บริการกลุ่มสมาชิกและกลุ่มลูกค้าทั่วไป 50 – 100 ล้านบาทขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่น อานิสงส์ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจพร้อมจ่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product) ผลิตภัณฑ์ทดแทน (ProductReplacement) มั่นใจทั้งปีปั้นรายได้โต 20%

นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ (“SCM”)ผู้นำในการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รูปแบบลักษณะเครือข่ายขายตรง (Multi-level Marketing หรือ “MLM”) เปิดเผยถึงความคืบหน้า “ธุรกิจลิสซิ่ง” ภายใต้ชื่อ “บริษัทจัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด” ซึ่งดำเนินธุรกิจการให้บริการสินเชื่อประเภทเช่าซื้อจำนำทะเบียนรถ และจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ว่า “จัดให้ลิสซิ่ง”จะสามารถเริ่มดำเนินการในเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนสิงหาคม 2565 นี้

โดยบริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์เพื่อดำเนินงานทางธุรกิจในการให้บริการสินเชื่อในช่วงแรก โดยจะมุ่งเน้นกลุ่มเครือข่ายสมาชิกของบริษัทฯเป็นหลัก และหลังจากนั้นบริษัทฯ มีแผนเตรียมขยายการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าทั่วไป

ทั้งนี้ บริษัทฯได้ตั้งเป้าการขยายพอร์ตปล่อยสินเชื่อ ภายในระยะเวลา 3 ปี (2565-2567) ที่ระดับ1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าภายในปีนี้ บริษัทฯจะสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มสมาชิกและกลุ่มลูกค้าทั่วไปได้ประมาณ 50 – 100ล้านบาท สำหรับการลงทุนใน “ธุรกิจลิสซิ่ง” ครั้งนี้ถือเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ของ SCM โดยบริษัทฯมองว่าธุรกิจดังกล่าวจะสามารถรองรับความต้องการเงินทุนของกลุ่มสมาชิก MLMที่มีอยู่กว่าในปัจจุบัน 160,000 ราย เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจรวมไปถึงการใช้เงินเพื่อการอุปโภคบริโภค ขณะเดียวกัน “ธุรกิจลิสซิ่ง”เป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเติบโตดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจลิสซิ่ง เข้ามาเฉลี่ย 10% ต่อปีของรายได้รวมในปี 2566 และปรับเพิ่มสูงขึ้นในปีถัดไป
สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มองว่ายังคงมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นอานิงสงค์เชิงบวกเนื่องจากช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4ของทุกปีเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์เริ่มทำการตลาดแบบออฟไลน์ (Offline) มากขึ้น เพื่อกระตุ้น สอนเทคนิคและวิธีการต่างๆ ให้กับกลุ่มเครือข่ายอย่างต่อเนื่องซึ่งสอดรับกับแผนการขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์ 1.การขยายเพิ่มฐานสมาชิก, 2.การเจาะขยายตลาดเกษตรกรและตลาด SilverAge, 3.การขยายดีลเลอร์ต่างประเทศ และ4.การพัฒนายกระดับความแข็งแกร่งของทีมขยายเครือข่าย
อีกทั้ง บริษัทฯเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product) และผลิตภัณฑ์ทดแทน (Product Replacement) อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารกำจัดวัชพืชและเพิ่มฮอร์โมนพืชภายใต้แบรนด์ “Growing More” ครีมบำรุงผิวหน้า Brightening ภายใต้แบรนด์ “SMone” ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการนอนหลับ ภายใต้แบรนด์ “Nutrinal”เป็นต้น ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์เรือธง (Flagship) ในปีนี้ และจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานในปี 2565จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือรายได้รวมเติบโตขึ้น 20 % เมื่อเทียบจากปี2564

“ด้วยฐานสมาชิก (Member) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ไตรมาสที่ผ่านมาจะช่วยสนับสนุนการรับรู้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของบริษัทฯ ในวงกว้างขึ้น โดยบริษัทฯเชื่อว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 จะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอีก 50,000 ราย จากปัจจุบันที่มีจำนวนสมาชิกกว่า 120,000 ราย ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นปี 2565 จะมีจำนวนสมาชิกรวม 170,000 ราย สำหรับกลยุทธ์หลักในการขยายฐานสมาชิก คือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆขณะเดียวกันก็มุ่งพัฒนาบุคลากรให้เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้น รวมถึงการมองหาBrand Ambassador (แบรนด์แอมบาสเดอร์) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาและการขยายตลาดส่งออกซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์จากปัจจุบันที่มีตัวแทนจำหน่ายแล้วใน 6 ประเทศ ได้แก่ พม่า, ลาว, กัมพูชา,เวียดนาม, มาเลเซีย และสิงคโปร์ ”

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp