กรุงศรี จับมือ แบล็คร็อค หนุนการลงทุนในกองทุนหุ้นนอกตลาด เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน รับมือความผันผวนของตลาดหุ้น

171

มิติหุ้น  –  นายวิน พรหมแพทย์, CFA ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของนโยบายการปรับดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อซึ่งมีผลต่อตลาดหุ้น กรุงศรีมองว่าการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอย่าง Private Equity เป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ซึ่งจะช่วยเสริมการลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยหากเราดูตัวเลขสถิติย้อนหลังที่ทางกรุงศรีและแบล็คร็อคเห็นสอดคล้องกันคือโดยส่วนมากสินทรัพย์ทางเลือกจะให้ผลตอบแทนที่ผันผวนน้อยกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะหุ้น และมีค่าความสัมพันธ์ (Correlation) ต่ำเมื่อเทียบกับสินทรัพย์แบบเดิม นั่นหมายความว่าหากนักลงทุนสามารถเติมสินทรัพย์ทางเลือกเข้ามาในพอร์ตการลงทุนจะมีโอกาสลดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนได้เพิ่มขึ้น ดังนั้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ บลจกรุงศรี จึงได้เลือกนำเสนอกองทุนที่จะช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนใน Private Equity คุณภาพสูง ภายใต้ชื่อ กรุงศรีไพรเวทแคปปิตอลระยะยาว-ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KFLTPC-UI) เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุน ที่สำคัญกองทุนนี้จะลงทุนผ่าน BlackRock Long Term Private Capital, SCSp  ซึ่งเป็นกองทุนหลักของแบล็คร็อค พันธมิตรระดับโลกของกรุงศรี ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การลงทุนใน Private Equity มาอย่างยาวนานมาบริหารกองทุน ทั้งนี้ กองทุนหลัก ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2562 สามารถทำผลตอบแทนสะสมได้สูงถึง 1.52 เท่าของเงินลงทุน และในปีนี้ ท่ามกลางตลาดหุ้นที่ผันผวน กองทุนหลักทำผลตอบแทนในไตรมาสแรก ได้ 0.53% นับว่าทำได้ดีกว่าผลตอบแทนของหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์”

นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ. กรุงศรี) เปิดเผยว่า “กองทุนเปิดกรุงศรีไพรเวทแคปปิตอลระยะยาว-ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KFLTPC-UI) ลงทุนผ่านกองทุนหลัก BlackRock Long Term Private Capital, SCSp  ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างการเติบโตของเงินลงทุนจากการคัดเลือกบริษัทที่มีคุณภาพสูง  ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ”

“กองทุนหลักจะใช้กลยุทธ์การลงทุนโดยตรงและการเข้าไปมีอำนาจควบคุมหรือร่วมควบคุมในโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทในฐานะ ‘Active owner’ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสร้างมูลค่าของธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นด้วยทีมงานที่แข็งแกร่งของแบล็คร็อคที่เชี่ยวชาญในการค้นหาบริษัท การวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก และการระดมแนวคิดในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท รวมทั้งมีพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรมที่จะช่วยให้คำปรึกษากับทีมผู้บริหารของบริษัทที่ลงทุน  พอร์ตเป้าหมายของกองทุนคือการลงทุนใน 10-15 บริษัทที่มีศักยภาพในกลุ่มอุตสาหกรรม Consumer, Financial Services, Technology, Media and Telecom, Healthcare, Industrials และ Business Services โดยจะเน้นที่อเมริกาและยุโรปเป็นหลัก”

กองทุนเปิดกรุงศรีไพรเวทแคปปิตอลระยะยาว-ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ KFLTPC-UI ถือเป็นทางเลือกที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายใหญ่พิเศษที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ของ กลต.ได้ร่วมลงทุนใน Private Equity ไปพร้อมกับนักลงทุนสถาบันเริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 25 ก.ค. – ส.ค. 65 นี้ ด้วยเงินลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ ล้านบาท

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp