PIMO-ไพโม่ โชว์งบไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 30.58 ล้านบาท พุ่งขึ้น  24.77% ขานรับยอดขายมอเตอร์ล้น มั่นใจปีนี้ทำรายได้ทะลุเป้า 1,200 ลบ.

66

มิติหุ้น – PIMO-ไพโม่ โชว์งบไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 30.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.07 ล้านบาท หรือ 24.77% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 24.51 ล้านบาท ส่วน 6 เดือนแรก (สิ้นสุดมิ.ย.65) กวาดกำไรสุทธิไป 63.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.79 ล้านบาท หรือ 42.26% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 44.46 ล้านบาท ขานรับยอดขายมอเตอร์ล้น ส่วนทั้งปียืนเป้ารายได้ทำได้ทะลุ 1,200 ล้านบาท  ด้านบอร์ดใจดีไฟเขียวปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.02 บาท

นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO-ไพโม่ ผู้ประกอบธุรกิจหลักผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioning Motor) มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป (Induction Motor)  เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำ มอเตอร์สำหรับปั๊มบ้าน (Submersible Pump,Pool Spa Pump and Home Pump) เปิดเผยว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 327.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.23 ล้านบาท หรือ 34.10% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 244.07 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 30.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.07 ล้านบาท หรือ 24.77% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 24.51 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.65) บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 678.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 210.12 ล้านบาท หรือ 44.82% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 468.85 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 63.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.79 ล้านบาท หรือ 42.26% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 44.46 ล้านบาท เนื่องจากมีคำสั่งซื้อสินค้าจากทุกผลิตภัณฑ์ อาทิเช่น มอเตอร์แอร์ มอเตอร์ปั๊มน้ำ มอเตอร์กำลัง และมอเตอร์ปั๊มน้ำ BLDC เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทฯ ยังคงมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ภายหลังจากที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวดีขึ้น

“แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะออกมาในทิศทางที่ดี เพราะบริษัทฯ มีออเดอร์ล่วงหน้า 8 เดือนเข้ามาแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ผลิตและจัดจำหน่ายแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1.มอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศ 2.มอเตอร์กำลังสำหรับภาคอุตสาหกรรม และ3.เครื่องสูบน้ำปั๊มหอยโข่งและมอเตอร์สำหรับสระและสปา มีสัดส่วนการขายอยู่ที่ 33%, 7% และ 59% ตามลำดับและมียอดขายจากต่างประเทศคิดเป็น 60% และในประเทศ 40% โดยส่วนใหญ่เป็นการขายแบบรับจ้างผลิต (OEM) ” นายวสันต์ กล่าว

ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงคาดว่ารายได้ปีนี้มีโอกาสทำได้ทะลุเป้าหมายที่ 1,200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2564 ทำได้ 1,030.58 ล้านบาท หลังจำนวนลูกค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งวดการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท โดยจะกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 และจ่ายปันผลในวันที่ 7 กันยายน 2565

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp