TWPC โชว์งบครึ่งปีแรก ยอดขายทั่วโลกพุ่ง 19% ประกาศลุยธุรกิจพลังงานหมุนเวียนเต็มรูปแบบ

200

มิติหุ้น – บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ฉลองวาระครบรอบ 75 ปี ในปี 2565 เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก ด้วยยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้น 19% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5%  TWPC เป็นบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมอาหาร ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการดำเนินงานใน 5 ประเทศ โดยมีโรงงานและสำนักงานทั้งหมด 15 แห่ง มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ครอบคลุมทั้งผลิตภัณท์อาหารสำหรับผู้บริโภค ได้แก่ ผลิตภัณท์แป้งและส่วนผสมในการประกอบอาหาร ผลิตภัณท์วุ้นเส้น เส้นก๋วยเตียว  และล่าสุดคือผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกจากแป้งมันสำปะหลังภายใต้แบรนด์ ROSECO  ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 บริษัทฯ มียอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์  โดยผลประกอบการที่ดีที่สุดมาจากธุรกิจอาหารซึ่งเป็นธุรกิจหลักในประเทศไทยและประเทศเวียดนามที่มีการเติบโตเป็นตัวเลขถึงสองหลัก

ในปีนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสำเร็จรูปใหม่ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย และมีการวางแผนที่จะสร้างยอดขายเป็นสองเท่าในเวียดนาม โดยบริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความคุ้มค่า สะดวก และเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าสูง

นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การออกแบบและพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดโลกที่มีความแข็งแกร่งและสมดุล คือกลยุทธ์หลักของบริษัทนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดเมื่อเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา ในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมอาหารแบบครบวงจรจาก “ฟาร์มสู่ผู้บริโภค” ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่รายในภูมิภาค เราได้ทุ่มเทเวลาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่คุณค่าทั้งระบบของบริษัท โดยได้ดัดแปลงแเข้ากับท้องถิ่น และพัฒนาความสามารถของทีมขายให้พร้อมสำหรับตลาดโลก และเรายังคงสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในช่วงหลังยุคโควิดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่า นอกจากนั้น เรายังได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ของไทยวา คือ มังกรคู่ เรดดี้ วุ้นเส้นคัพ วุ้นเส้นพร้อมรับประทาน สามารถหาซื้อได้แล้วทั่วประเทศ และผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ซองลอง (Song Long) ซึ่งเป็นแบรนด์แฟลกชิปของบริษัทในเวียดนาม ก็เป็นผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสำหรับผู้บริโภคที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค สำหรับผลิตภัณฑ์แป้งประกอบอาหารและส่วนผสมอาหารที่ขายให้กับกลุ่มธุรกิจนั้น บริษัทยังคงเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง แป้งดัดแปร และแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิก ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบมาจากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ถึงแม้ว่าในไตรมาสที่ 2 ประเทศจีนมีการล็อคดาวน์ ส่งผลให้ระบบห่วงโซ่อุปทานเกิดภาวะชะงักงัน แต่บริษัทฯ ก็ยังคงมีปริมาณการเติบโตที่แข็งแกร่ง ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสามารถในด้านการขายและการตลาดที่บริษัทฯ มีทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”

ในปี 2568 ไทยวาวางแผนที่จะเพิ่มยอดขายทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วยการขยายทั้งผลิตภัณฑ์ การจัดจำหน่าย สำนักงานขายและการตลาดจาก 15 แห่งเป็น 20 แห่ง รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานในจีน ลาว กัมพูชา และอินโดนีเซีย  ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา บริษัทฯ สามารถทำกำไรและสร้างรายได้เป็นสองเท่า และได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า 20 รายการตลอดช่วงที่เกิดโรคระบาดโควิด สามารถรองรับตลาดอาหาร แป้งมัน และแหล่งวัตถุดิบออร์แกนิคที่ยั่งยืนได้ทั่วโลก

“ธุรกิจเกษตรและอาหารเป็นธุรกิจระดับโลก ความท้าทายเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหารและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้เรามีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องบริการลูกค้าทั่วโลกให้ได้เร็วขึ้นและดีขึ้น ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายและการทำตลาดทั่วโลกของเราเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงขึ้นมาก ปัจจุบันเราให้บริการลูกค้าในประเทศต่างๆ รวมถึงแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และเรายังเป็นหนึ่งในบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากพืชล้วนๆ จากฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภค ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าทั่วโลก  และในฐานะบริษัทชั้นนำด้านเกษตรและอาหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจะสร้างความแข็งแกร่งให้เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง” นายโฮ กล่าวเสริม

ยิ่งไปกว่านั้น ไทยวาจะรุกการลงทุนในด้านพลังงานทดแทนอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายในการจัดหาพลังงานหมุนเวียนมากกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นระยะยาวในการลดปริมาณคาร์บอนให้เป็นศูนย์ และเป็นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธภาพในฐานะองค์กรหลัก   ในช่วงต้นปี 2565 บริษัทฯ ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ในด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ภายใต้แบรนด์ ROSECO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกที่ผลิตจากแป้งมันสำปะหลังครั้งแรกในโลก และเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาพลาสติกที่เกิดขึ้นทั่วโลกและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp