NDR เผย Q2/65 กำไรเพิ่มแตะ 6.52 ลบ. หลังเน้นสินค้ามาร์จิ้นสูง พร้อมคงเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่  900-1,000 ลบ.

41

มิติหุ้น – บมจ.เอ็น.ดี. รับเบอร์ หรือ NDR เผยว่า  ผลงาน Q2/65 มีรายได้รวมอยู่ที่ 212.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.52 ล้านบาท จากการเน้นสินค้ามาร์จิ้นดี หนุนความสามารถในการทำกำไรพุ่ง ฟากเอ็มดี “ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา” คงเป้ารายได้ปีนี้แตะ 900- 1,000 ล้านบาท หลัง 6 เดือนกวาดรายได้แล้ว 415.52 ล้านบาท

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR) เปิดเผยว่า  ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 212.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 202.42 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.52 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9.74 ล้านบาท  และคิดเป็นเพิ่มขึ้น 2,203.23% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ขาดทุน 0.31 ล้านบาท โดยสาเหตุที่รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนโยบายผลักดันการจำหน่ายสินค้าที่เน้นผลกำไรขั้นต้น จึงทำให้มูลค่าสินค้าที่จำหน่ายได้ราคามากขึ้นตามไปด้วย รวมถึงส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16.59% จากไตรมาสก่อน 14.50% และมีอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.07% สูงกว่าจากไตรมาสก่อนที่ -0.15%

“สถานการณ์โดยรวมของบริษัทฯ ยังคงที่และไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก โดยในไตรมาส 2/2565 ต้นทุนยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ไม่ได้ขยับตัวเพิ่มขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่ารายได้ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เนื่องจากการเน้นสินค้าที่มีมาร์จิ้นดี ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิสูงกว่าไตรมาสก่อน” นายชัยสิทธิ์ กล่าว

กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวอีกว่า บริษัทฯมีนโยบายการผลักดันสินค้าที่มีกำไรขั้นต้นมาก โดยเพิ่มกำลังการผลิตและเน้นทำการตลาดในสินค้ากลุ่มนี้ ส่งผลให้รายได้จากสินค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้น และทำให้ผลประกอบการโดยรวมดีขึ้น แม้ตลาดจะยังอยู่ในสภาวะตึงตัว และต้นทุนยังคงอยู่ในระดับสูง บริษัทฯ คาดว่าถ้าสามารถผลักดันสินค้ากลุ่มนี้เข้าไปในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อสภาวะเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จะทำให้บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยบริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 900 – 1,000 ล้านบาท โดย 6 เดือนแรกของปีนี้บริษัทฯทำรายได้แล้ว 415.52 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์ในครึ่งปีหลังน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp