มิติหุ้น-กลุ่มโรงพยาบาลทยอยประกาศงบQ2/65 แม้ว่าจะยังไม่ครบ แต่เริ่มเห็นทิศทางว่า Q1/65 ที่ว่าปังแล้ว!! มาเจอ Q2/65 ปังยิ่งกว่า รับอานิสงส์การเปิดประเทศ จำนวนผู้ป่วยจากต่างชาติแห่แหนกลับเข้ารักษา
ขณะที่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นตั้งแต่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ปรับมาใช้ระบบการรักษาสิทธิตามบัตรประกันสังคม และบัตรทองเริ่ม 4 ก.ค. 65 ด้วยเกณฑ์ใหม่ทำให้รายได้โควิดของกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนปรับตัวลดลง ดังนั้นบริษัทที่มีสัดส่วนรายได้จากโควิดสูงๆ เริ่มจะออกอาการไม่ดี
ทยอยแจ้งงบ
เริ่มที่ BH หรือบมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดงบ Q2/65 เซอร์ไพรส์ตลาด ด้วยกำไรสุทธิ 1,165.95 ล้านบาท โตพรวด 438.6% YoY และมีรายได้รวม 4,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จาก 3,020 ล้านบาท ในQ2/64 โดยหลักเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติและผู้ป่วยชาวไทย
ขณะที่งวดครึ่งปี 65 มีกำไร 1,890.99 ล้านบาท โต 514.8% เทียบช่วงเดียวกันปี 64 ที่มีกำไร เพียง 307.59 ล้านบาท จากงบเติบโตโดดเด่น บอร์ดมีมติ จ่ายปันผลระหว่างกาลงวด 1 ม.ค.-30 มิ.ย.65 เป็นเงินสดจำนวน 1.15 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 25 ส.ค.65 กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 8 ก.ย. 65
PRINCงบพลิกบวก
ทางด้าน PRINC งบQ2/ 65 พลิกมีกำไรสุทธิ 165.5 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนขาดทุนสุทธิ 170.8 ล้านบาท โต 196.9% และมีรายได้รวม 1.75 พันล้านบาท โต 90.1% ทำให้ครึ่งปีแรก 2565 รายได้รวมอยู่ที่ 3.84 พันล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามากกว่าเท่าตัว
THG หรือบมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป งวด Q2/65 มีกำไร 398.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 374%YoY และมีรายได้รวม 2,674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.3%YoY เนื่องจากอัตราการเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้น และควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย ส่งผลให้กำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งได้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม
BHโดดเด่น กำไรโตพรวด
ทางด้าน“ธีระพล อุดมเวศย์” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ในบรรดาบริษัทที่ได้ประกาศงบออกมา พบว่าบริษัทฯที่มีสัดส่วนรายได้จากโควิดสูง จะฉุดงบQ2/65 ลดลง ทางกลับกันบริษัทที่มีสัดส่วนรายได้จากโควิดต่ำ งบจะออกมาเติบโต
ดังเช่น BH พบว่ากำไร Q2/65 ทำเซอร์ไพรส์ตลาด และระดับกำไรสุทธิที่ 1,165 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุด ผลจากผู้ป่วยต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 60-70%ของรายได้รวม ได้กลับเข้ามารักษาหลังเปิดประเทศและเป็นกลุ่มลูกค้ามาร์จินสูง
ทั้งนี้ ยกให้BH เป็น Top Pick กำไรเติบโตโดดเด่น รับอานิสงส์จากผู้ป่วยต่างชาติกลับเข้ามารักษาหลังเปิดประเทศ และเป็นโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนผู้ป่วยโควิดไม่สูงอยู่แล้ว
บล.เคทีบีเอสที ระบุว่า แนวโน้มผลประกอบการกลุ่มโรงพยาบาลในครึ่งหลังปี 65 ปรับตัวลดลง YoY โดยเฉพาะกลุ่ม รพ. ที่ได้รับอานิสงส์จาก COVID และการจากเดิมที่ รพ.ได้รับการสนับสนุนจากรัฐที่ 6,000 -12,000 บาทต่อเคส
คงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มเป็น “overweight” Top pick คือ BDMS แนะซื้อ เป้า 31.00 บาท
@mitihoonwealth