มิติหุ้น – ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2565 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 430 ล้านบาท รายได้รวม 1,810 ล้านบาท โดยรายได้ค่าบริการช่วงครึ่งปีแรก 2565 เท่ากับ 1,772.2 ล้านบาท เปรียบเทียบกับรายได้ช่วงครึ่งปีแรก 2564 เท่ากับ 1,773.1 ล้านบาท ซึ่งรวมการขายประกันโควิด-19 เป็นรายได้ประมาณ 145 ล้านบาท หากไม่รวมรายได้การขายประกันโควิด-19 ในปีที่แล้ว รายได้ของครึ่งปีแรก 2564 จะเป็น 1,628.1 ล้านบาท เห็นได้ว่าธุรกิจหลักของ TQM ยังมีการเติบโตได้ดีในครึ่งปีแรก 2565 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้จากประกันโควิดเป็นตัวเสริม ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็ยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้นทุนและค่าใช้จ่ายการให้บริการคิดเป็น 45.3% ของรายได้รวม อยู่ในระดับใกล้เคียงปีที่ผ่านมา ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 463 ล้านบาท คิดเป็น 25.6% ของรายได้รวม
สำหรับคาดการณ์ผลประกอบการรวมทั้งปี 2565 เนื่องด้วยผู้บริโภคมีแนวโน้มในการตระหนักถึงความสำคัญของการมีประกันมากขึ้น TQM จึงได้เตรียมผลิตภัณฑ์ประกันภัยอื่นๆ เพื่อสร้างยอดขายเพิ่ม อาทิ ประกันบ้าน ที่ได้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมสนับสนุนทีมขายให้เน้นการขายประกันบ้านมากขึ้น พัฒนาประกันสุขภาพให้มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลโดยรวม ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าให้ความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลัง และจากสถานการณ์ที่หลายประเทศทั่วโลกเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยว ทำให้คนไทยเริ่มตื่นตัวออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น TQM จึงมีการออกแบบประกันการเดินทางที่มีหลากหลายความคุ้มครอง พร้อมบริการแจ้งเตือนไฟล์ทดีเลย์ และการประสานงานเคลม ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท จำนวน 600 ล้านหุ้น รวมเป็น 420 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 29 สิงหาคม 2565 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2565
ดร.อัญชลินกล่าวอีกว่า เมื่อเร็วๆ นี้ TQM ได้ประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ในการยกระดับสู่ TQMalpha (ทีคิวเอ็ม อัลฟา) พร้อมวางโครงสร้างธุรกิจที่ขยายมากกว่าการเป็นนายหน้าประกัน เข้าสู่ธุรกิจการเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม เพื่อเป็นตัวช่วยให้สามารถขยายธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น สำหรับธุรกิจนายหน้าประกัน ยังคงมีเป้าหมายที่ต้องการสร้างการเติบโตของยอดเบี้ยประกันของปี 2565 รวมเป็นประมาณ 29,000 ล้านบาท จาก 17,505 บาท ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ TQMalpha มุ่งไปสู่เป้าหมายระยะยาว 5 ปีข้างหน้า ที่จะบรรลุยอดขายเบี้ยประกันมูลค่า 50,000 ล้านบาท สร้างการเติบโตในธุรกิจใหม่ ทั้งธุรกิจการเงินรวมกับเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม จนสามารถสร้างรายได้ได้เท่ากับธุรกิจนายหน้าประกัน นำบริษัทลูกที่มีผลการดำเนินงานดี เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งมีเป้าหมายที่จะสร้างฐานลูกค้าให้ถึง 10 ล้านคนในประเทศไทยและภูมิภาค CLMV อีกด้วย
@mitihoonwealth