มิติหุ้น – FSMART ประกาศปันผลระหว่างกาลงวด 6 เดือนแรกปี 2565 หุ้นละ 0.20 บาท พร้อมจ่าย 8 ก.ย. นี้ โชว์ผลงานไตรมาส 2 มีกำไร 83 ล้านบาท รวมกำไรครึ่งปีแรก 164 ล้านบาท พร้อมลุยธุรกิจการเงินครบวงจรด้วยบริการที่ครบครันและปั้มพอร์ทสินเชื่อโตต่อเนื่อง อีกทั้งยอดขายตู้เต่าบินพุ่งแรงต่อเนื่องดันกำไรเพิ่มหลังรับรู้ส่วนแบ่งจาการเพิ่มสัดส่วนถือหุ้น
นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) “FSMART” ผู้นำเครือข่ายช่องทางบริการอัตโนมัติและการเงินครบวงจร ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ภายใต้ชื่อ “บุญเติม” เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท รวมเป็นเงิน 151 ล้านบาท จากผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 ถึง 30 มิ.ย. 2565 โดยได้กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 24 ส.ค. 2565 และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 25 ส.ค. 2565 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 ก.ย. 2565
สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนบริษัมมีรายได้รวม 1,293 ล้านบาท กำไร 164 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 642 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 83 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้บริษัทรับรู้ส่วนได้เสียจากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด จากเดิม 19.34% เป็น 26.71% ซึ่งบริษัทเริ่มรับรู้ไปแล้วในส่วนของเดือน มิ.ย. 2565 และจะทยอยรับรู้จากนี้ต่อไป ตู้เต่าบินยังคงเป็นที่นิยมและกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า มีแนวโน้มยอดขายที่สูงขึ้นจากจำนวนจุดบริการที่เพิ่มขึ้นและจะขยายจุดบริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการที่กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทโดนผลกระทบจากเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 จนถึงอัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้อำนาจซื้อลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งบริษัทคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภาพรวมจะทยอยฟื้นตัวกลับมาในช่วงครึ่งหลังของปี แต่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยยังคงโดนผลกระทบจากค่าครองชีพอยู่ทำให้อัตราการฟื้นตัวช้ากว่ากลุ่มอื่น อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะทำให้รายได้ของบริษัทกลับมาเติบโตอีกครั้งหลังผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา
สำหรับการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2565 บริษัทมุ่งเน้นการเสริมศักยภาพของธุรกิจการเงินและสินเชื่อครบวงจรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและก้าวสู่ธนาคารชุมชนที่ช่วยเพิ่มอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าทุกกลุ่มผ่านทุกช่องทางของบริษัททั้งตู้บุญเติม เคาน์เตอร์แคชเชียร์ และแอปพลิเคชัน พร้อมกับบริการที่ครบครัน ทั้งฝาก-โอน-ถอน โดยบริการถอนมีจำนวนการใช้งานมากกว่าฝาก-โอนถึง 8 เท่า และเพิ่มลูกค้าใหม่จากการเพิ่มการเป็นตัวแทนธนาคารและกลุ่ม non-bank อย่างน้อย 2 ราย ในปีนี้ ควบคู่ไปกับแผนการขยายตู้บุญเติม Mini ATM ให้ได้ 10,000 จุดทั่วประเทศ ภายใน 3 ปี ทั้งนี้ บริษัทได้เริ่มเปิดให้บริการฝาก-โอนสำหรับบุคคลต่างด้าวทั้ง ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ ที่เปิดบัญชีธนาคารในประเทศอย่างถูกต้องตามกฏหมายแล้ว ปัจจุบันได้เปิดบริการสำหรับบุคคลต่างด้าวที่เปิดบัญชีของธนาคารกสิกรไทย และต่อไปจะเพิ่มในส่วนของบัญชีธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ภายในไตรมาส 3 ปีนี้
บริษัทมุ่งหน้าสร้าง Ecosystem ผ่านความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจใหม่พร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ อีกทั้งมีการปรับกระบวนการให้บริการเข้าสู่ดิจิตอลมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งหวังที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการสินเชื่อได้อย่างสะดวกผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือและช่องทางต่าง ๆ ของบริษัท อีกทั้งบริษัทได้ใช้ Big data ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อการควบคุมคุณภาพของสินเชื่อภายใต้การจัดการอย่างเข้มงวด และการสรรหาผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ตอบโจทย์แก่ลูกค้า อาทิเช่น สินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อผ่อนชำระ และการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องสำหรับทุกความต้องการต่อไป
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp