SIRI โชว์กำไร 6 เดือนปี 65 โกย 1,221 ลบ. ไตรมาส 2 กำไรพุ่ง โตกว่า 203% กวาดรายได้รวม 13,057 ลบ. แย้มครึ่งปีหลัง ผลประกอบการทะยานต่อ ล่าสุดผนึก โตคิว เผยโฉม “บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา” มูลค่าโครงการ 4,800 ลบ. เผยกระแสตอบรับดี โกยยอดขายกว่า 80% ก่อนพรีเซลล์

30

มิติหุ้น  –  นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ (SIRIเปิดเผยว่า ผลประกอบการรอบ เดือนปี 2565แสนสิริมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ 1,221 ล้านบาท โตขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ กำไรสุทธิฯ เฉพาะไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 918 ล้านบาท โตขึ้นถึง 203%จากไตรมาสแรกที่มีกำไรสุทธิฯ 303 ล้านบาท และโตขึ้นเกือบ 40% จากไตรมาส เดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไร 662 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิในไตรมาส 2/65

เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข หลักตามเป้าหมายในปีนี้อยู่ที่ 11.7% โตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและโตขึ้นจากไตรมาสแรกที่มีอัตรากำไรสุทธิ 5.8%ความสามารถในการทำกำไรฯ เพิ่มขึ้น จากประสิทธิภาพการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ Step Beyond เติบโตยั่งยืนทุกมิติและ Speed to Market #2 มองตลาดเร็ว  รุกไว พร้อมปรับตัวรองรับทุกสถานการณ์ 

ขณะที่รายได้รวมรอบ เดือน อยู่ที่ 13,057 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้รวมในช่วงไตรมาสแรก 5,220 ล้านบาท และรายได้รวมไตรมาสที่ อยู่ที่ 7,837 ล้านบาทโตขึ้น 50% นอกจากนี้ แสนสิริยังมีผลงานยอดขายที่โดดเด่น โดยในช่วง เดือน สร้างยอดขายรวมไปได้ถึง 24,900 ล้านบาทหรือคิดเป็น 71% จากเป้าหมายยอดขาย 35,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบถึง 18,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 77%

จากเป้าหมายยอดขายโครงการแนวราบ 24,000 ล้านบาท ซึ่งแสนสิริอาจมีการพิจารณาปรับปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายโครงการแนวราบในช่วงครึ่งปีหลังอีกครั้ง “ล่าสุด แสนสิริยังได้จับมือ โตคิว คอร์ปอเรชั่น เปิดตัว “บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา” ครั้งแรกกับการร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบร่วมกันภายใต้มูลค่าโครงการรวม 4,800 ล้านบาท หลังประสบความสำเร็จในการร่วมกันพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกันหลายโครงการในช่วงหลายปีที่ผ่านมาด้วยจุดแข็งของแบรนด์แสนสิริในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ที่โดดเด่นด้านคุณภาพ การออกแบบ และฟังก์ชั่น ตลอดจนบริการหลังการขายทำให้โตคิว คอร์ปอเรชั่น มั่นใจที่จะสานต่อความร่วมมือในการพัฒนาโครงการบุราสิริ กรุงเทพกรีฑา ประกอบกับ ความสำเร็จของแสนสิริในการพัฒนา “กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้”

ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในการเป็นสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ และย่านการพักอาศัยระดับอินเตอร์เนชั่นแนล คล้ายคลึงกับการขยายตัวของชุมชนที่อยู่อาศัยหลาย ๆย่านในโตเกียว ซึ่งแต่ละย่าน ต่างมีกลิ่นอายและบรรยากาศของความเป็นชุมชนเมืองที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ย่านชิบูย่า (Shibuya)

ย่านฟุทาโกะทามางาวะ (Futako Tamagawa) ย่านทามะพลาซ่า (Tama-plaza) ซึ่งถูกพัฒนาตามแนวเส้นทางรถไฟสายเดนเนนโทชิ (Den-en-Toshi) ของโตคิวซึ่ง “กรุงเทพกรีฑา” มีความคล้ายคลึงกับย่านที่อยู่อาศัย ใกล้สถานีทามะพลาซ่า ที่ญี่ปุ่นเป็นพิเศษ จากการเป็นย่านที่พักอาศัยคุณภาพ

ที่ไม่ไกลจาก CBD ที่ตั้งอยู่ใน “โตคิว ทามะ การ์เดน ซิตี้ ใจกลางเมืองโตเกียว” ซึ่งถือเป็นรูปแบบการขยายเมืองจากใจกลางชั้นในไปสู่เขตเมืองชั้นนอกโดยสร้างเป็นกลุ่มเมืองตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัยรายล้อมอย่างครบครัน โดยล่าสุด ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าสร้างยอดขายแล้วกว่า 80% ของเฟสแรก ก่อนเปิดพรีเซลล์ ” นายอุทัย กล่าว

นอกจากนี้ แนวคิดการพัฒนาโครงการบุราสิริ กรุงเทพกรีฑา ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้พักอาศัย ยังมีความสอดคล้องกับปรัชญาการพัฒนาที่อยู่อาศัยของโตคิว คอร์ปอเรชั่น และเมื่อผนวกกับศักยภาพของทำเลที่ตั้ง และความแข็งแกร่งของแบรนด์แสนสิริ ทำให้ทางโตคิว คอร์ปอเรชั่น

เชื่อมั่นว่า บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ประสบความความสำเร็จอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ทางโตคิว คอร์ปอเรชั่นยังได้เตรียมนำความร่วมมือกับแสนสิริในโครงการนี้ ใช้เป็นกรณีศึกษาสำหรับโมเดลความร่วมมือทางธุรกิจ เพื่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆของโตคิวในญี่ปุ่นต่อไปอีกด้วย

ภายใต้วิสัยทัศน์ “STEP BEYOND” ในปีนี้ แสนสิริมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งยั่งยืนในทุกมิติ พร้อมเป็นกำลังสำคัญให้ทุกองค์กรก้าวแกร่งไปด้วยกันในทั้ง ด้าน

PROFIT – PEOPLE – PLANET เพราะเราเชื่อว่า “แบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้า ต้องแข็งแกร่งและดูแลโลกและสังคมไปพร้อมกัน” ทั้งนี้ล่าสุด

แสนสิริ ยังได้ตอกย้ำความสำเร็จของ PROFIT ที่มุ่งเดินหน้าสร้างรายได้และผลกำไรเพื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วน รวมถึงผู้ถือหุ้น

โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (Interim dividend) จากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2565

ซึ่งเป็นที่น่าพึงพอใจ ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.04 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 29 สิงหาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 13 กันยายน 2565 นี้

โดยการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่ดีและผลประกอบการที่ดีในอนาคต” นายอุทัย กล่าว

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp