วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

74

ราคาน้ำมันดิบปรับลดต่อ จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย

– ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลงต่อกว่า 3% จากความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง หลังตัวเลขอัตราการสร้างบ้านในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง ขณะที่อัตราการจำนองบ้านและต้นทุนของวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น กดดันความต้องการใช้พลังงานในครัวเรือน

– ธนาคาร Barclays ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้และปีหน้าลงจากก่อนหน้า 8 เหรียญต่อบาร์เรล สู่ระดับ 103 เหรียญต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสู่ระดับ 99 เหรียญต่อบาร์เรล หลังคาดการณ์อุปทานน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นและมีอุปทานส่วนเกินในระยะสั้น จากการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียที่ยังสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนการคว่ำบาตรอย่างเต็มรูปแบบของยุโรปในช่วงสิ้นปี โดยคาดว่าจะทำให้รัสเซียส่งออกน้ำมันดิบลดลงราว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

– ตลาดยังคงจับตาดูผลการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน โดยมีสหภาพยุโรปเป็นตัวกลาง โดยอิหร่านได้ตอบสหภาพยุโรป ในวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด หลังการเจรจาร่วมกันกินเวลากว่า 16 เดือน โดยนักวิเคราะห์คาดว่าปริมาณน้ำดิบในตลาดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หากสหรัฐฯและอิหร่านยอมรับข้อเสนอจากสหภาพยุโรปจนสามารถบรรลุข้อตกลงได้ ซึ่งจะส่งผลให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น

ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่ปรับตัวลดลงในฮ่องกงและฟิลิปปินส์ ท่ามกลางน้ำมันเบนซินคงคลังในภูมิภาคที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และความต้องการน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในศรีลังกา

ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ยังจำกัด  และอุปสงค์ในภูมิภาคที่ยังทรงตัว อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเกาหลีใต้และฮ่องกง

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp