มิติหุ้น – นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 3/2565 มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นธุรกิจ ส่งผลให้ปริมาณความต้องการขนส่งที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริการขนส่งทางทะเล (Sea Freight) และ บริการขนส่งข้ามแดน (Cross Border Service) ครอบคลุมสินค้ามาร์จิ้นสูง อาทิ กลุ่มสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์, กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมุ่งเน้นการจัดการต้นทุนขนส่งเพื่อสร้างอัตรากำไรที่ดี
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการขยายปริมาณการขนส่งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2565 บริษัทสามารถขนส่งสินค้าได้จำนวน 5,091 TEUS หรือคิดเป็น 51% จากเป้าหมายที่วางไว้สิ้นปี 10,000 TEUS และโปรแกรมความร่วมมือระหว่างบริษัทในเครือทั้ง 9 แห่ง เพื่อเพิ่มปริมาณขนส่งในประเทศสหรัฐอเมริกา และรองรับการย้ายฐานการผลิตของประเทศจีนก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าเช่นเดียวกัน โดยสามารถขนส่งได้จำนวน 1,702 TEUS หรือคิดเป็น 56.73% จากเป้าหมายที่วางไว้ 3,000 TEUS
อีกทั้ง การผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19ในประเทศจีน ทำให้สามารถเปิดด่านขนส่งสินค้าได้ตามปกติ เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ปริมาณการขนส่งข้ามแดนที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า เริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม เป็นต้นมา นอกจากนี้บริษัทคาดว่าความต้องการขนส่งทางอากาศ (Air Freight) จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวอีกด้วย
ด้านบริษัท ไวส์ ซัพพลายเชน โซลูชั่นส์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านซัพพลายเชนโซลูชั่นส์แบบครบวงจร ทั้งงานคลังสินค้า การกระจายสินค้า การขนส่งสินค้า (Equipment) ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการให้ให้บริการคลังสินค้าแบบออนไซต์ (Onsite Warehouse Management) ให้กับบริษัทในกลุ่มสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์ของบริษัทในเครือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) พื้นที่ขนาด 15,000 ตารางเมตร โดยบริษัทมีแผนการขยายคลังสินค้าทั้งหมดจำนวน 100,000 ตารางเมตร ภายในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2565-2567)
“บริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายศักยภาพการขนส่งร่วมกับบริษัทในเครือเพื่อรองรับปริมาณการขนส่งที่เติบโตในช่วงไฮซีซั่น พร้อมบริหารต้นทุนและรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับดี อีกทั้งการเจรจาร่วมมือกับพันธมิตรผู้จัดจำหน่ายและบริหารช่องทางการขาย E-commerce เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจากแผนการดำเนินงานที่กล่าวมา ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถทำผลประกอบการที่ดีติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยมีรายได้จำนวน 9,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายชูเดช กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก 2565 บริษัทมีรายได้รวม 4,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,994 ล้านบาท จำนวน 1,235 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 41% และ มีกำไรสุทธิ 328 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 193 ล้านบาท จำนวน 135 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 70 % และผลประกอบการไตรมาส 2/65 บริษัทมีรายได้รวม 2,063 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,706 ล้านบาท จำนวน 357 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 21 % และ มีกำไรสุทธิ 170 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 111 ล้านบาท จำนวน 59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 53%
@mitihoonwealth
