มิติหุ้น-บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ผลงาน Q3/65 ของ CK คาดกำไรเกิน 400 ลบ. ทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 ไตรมาส เนื่องจากจะรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก CKP มากขึ้นซึ่งเป็น “ไฮซีซั่น” ของกำไรจาก Q3/65 จะเป็นช่วงที่โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขายไฟได้เพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษจากที่ฝนมามากกว่าปกติ รวมถึงรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก BEM ที่เติบโต และ มีปันผลจาก TTW
พร้อมกันนี้ CK ยังเดินหน้าประมูลงานใหม่ได้มากขึ้น Backlog ปัจจุบันเพิ่มเป็น 62,915 ล้านบาท มากกว่าต้นปีก่อนเท่าตัว ล่าสุดโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง 1,460MW (CK ถือ 10%, CKP ถือ 42%) เป็นการก่อสร้างงานโยธาประมาณ 8 หมื่นล้านบาท คาดจะลงนามสัญญาก่อสร้างได้ใน Q4/6 จะทำให้ Backlog เพิ่มเป็น 142,000 ล้านบาท จะเริ่มก่อสร้างในปี 2566
นอกจากนี้โครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ มูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท เตรียมที่จะเปิดประมูลในQ4/65 และ ปี 66 โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วง ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ รวมงานเดินรถ 1.27 แสนล้านบาท โดยฝ่ายวิจัยมองกลุ่ม CK มีความได้เปรียบ จะทราบผลภายในQ4/65 นี้ ถ้ากลุ่ม CK ชนะการประมูลจะทำให้ Backlog มากกว่า 2แสนล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่
สำหรับทั้งปี 65 คงประมาณการกำไรปกติเท่ากับ 1,104 ล้านบาท เติบโตสูงจากปีก่อนที่มีกำไรปกติเพียง 100 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 24 บาท
@mitihoonwealth