วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

83

ราคาน้ำมันดิบปรับลด เนื่องจากตลาดกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในจีน

– ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลง เนื่องจากตลาดมีความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในจีน หลังจากสถานะการณ์โควิด-19 ในจีนที่ยังคงรุนแรงส่งผลในจีนยังคุมเข้มมาตการต้านโควิดต่อไป ประกอบกับวิกฤตด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ภาคการผลิตในจีนเริ่มส่งสัญญาณการชะลอตัว ในขณะที่ภาคบริการเติบโตได้ช้ากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ทำให้จีนกำลังเผชิญกับสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในที่สุด

+ จากการรายงาน Joint  Technical Committee (JTC) ของกลุ่มโอเปกพลัส กล่าวว่าปริมาณน้ำมันในตลาดมีแนวโน้มเกินดุลกว่า 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ในเดือนก่อนหน้าถึง 1 แสนบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ประเทศสมาชิกบางส่วนเริ่มมีการเรียกร้องให้ปรับลดกำลังการผลิตลง โดยนักลงทุนยังคงจับตาดูผลจากการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 ก.ย. นี้

+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ประกาศตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ส.ค. 65 ปรับลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล  สู่ระดับที่ 418.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต๊อกน้ำมันเบนซินปรับลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 214.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้น 0.111 ล้านบาร์เรล สู่ระดับที่ 111.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าลดลง 0.96 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับลดลงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอินโดนีเซียปรับลดการน้ำเข้าน้ำมันจากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวลง ในขณะที่อุปทานในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้นจากการเร่งผลิตของโรงกลั่นก่อนหน้านี้

ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับลดลงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจากสต็อกน้ำมันดีเซลในสหรัฐฯปรับเพิ่ม สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง ในขณะที่อุปทานในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะจากเกาหลีใต้ ที่มีการเพิ่มปริมาณน้ำมันส่งออกเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวลง จากความผันผวนของราคา

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp