มิติหุ้น – นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI
เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขาย (พรีเซล) ครึ่งปีหลัง ได้มากกว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน และสามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ทั้งปีที่ 11,000 ล้านบาท เนื่องจากการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภค รวมถึงเป็นไฮซีซันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้บริโภคมักจะเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงปลายปี ดังนั้นบริษัทฯ จึงวางแผนธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น โดยคาดว่าจะเปิดโครงการในครึ่งปีหลังได้ตามแผน มูลค่าโครงการกว่า 10,700 ล้านบาท
“บริษัทฯ มีการเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีแรก 2 โครงการ เป็นไปตามแผนและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และในครึ่งปีหลังนี้เราวางแผนเร่งเปิดโครงการเพิ่มขึ้น เน้นแบรนด์ ‘บริทาเนีย’ และ ‘แกรนด์ บริทาเนีย’ ซึ่งเป็นเรือธงเจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดระดับกลางถึงบน ซึ่งได้รับการพัฒนารูปแบบโครงการ แบบบ้าน ฟังก์ชันใช้สอย และพื้นที่ส่วนกลาง ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป จากการศึกษาไลฟ์สไตล์และปัญหาของการอยู่อาศัย เพื่อให้บ้านของบริทาเนียสามารถตอบสนองการอยู่อาศัยของทุกเจเนอเรชันได้อย่างลงตัว และคาดว่าได้ผลตอบรับที่ดีไม่น้อยกว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน” นางศุภลักษณ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BRI กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ ทยอยเปิดบ้านแนวราบอีก 4 โครงการ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เน้นทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้าหรือทางด่วน มูลค่าโครงการรวม 4,350 ล้านบาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 25-26 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เปิดพรีเซลไปแล้ว 3 โครงการ (จาก 4 โครงการ) ได้แก่
1) โครงการบริทาเนีย วงแหวน – ปิ่นเกล้า เป็นบ้านแฝด 106 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5.69 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท โดยออกแบบพื้นที่ส่วนกลางครบครันและคลับเฮาส์หรู เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย เดินทางเข้า – ออกเมืองด้วยทางด่วนศรีรัช – วงแหวนรอบนอก เชื่อมต่อมอเตอร์เวย์ ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ถนนบรมราชชนนี และใช้เวลาเดินทางถึงสถานีรถไฟฟ้าตลิ่งชันรวมถึงห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เพียง 20 นาที
2) โครงการบริทาเนีย โฮม บางนา กม.17 เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 228 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.89 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และ 3) โครงการบริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17 เป็นทาวน์โฮม 352 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท บนถนนบางนา กม.17 ทำเลศักยภาพที่หาได้ยาก เพียง 10 นาที ถึงห้างเมกา บางนา โดยเป็นครั้งแรกของการออกแบบโครงการในบรรยากาศแบบ “เมืองลอนดอน” พร้อมพัฒนาแบบบ้านและฟังก์ชันเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป รองรับการอยู่อาศัยแบบ Love-Life Balance ทั้งชีวิตทำงานและชีวิตครอบครัว ผ่านการดีไซน์พื้นที่ภายในให้มีฟังก์ชันที่ใช้พื้นที่ส่วนรวม แต่มีความเป็นส่วนตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ อาทิ คลับเฮาส์, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฯลฯ
โดยทั้ง 3 โครงการทำยอดขายช่วงพรีเซลรวมกันกว่า 250 ล้านบาท แม้เปิดตัวได้เพียงอาทิตย์เดียวก็สามารถทำยอดพรีเซลและได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ ส่วนในเดือนกันยายน 2565 เตรียมเปิดที่อยู่อาศัยแนวราบ อีก 1 โครงการ คือ โครงการแกรนด์ บริทาเนีย คูคตสเตชั่น เป็นซีรีย์ใหม่-บ้านเดี่ยว สไตล์ Luxury English Gable มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าคูคต (ส่วนต่อขยายสีเขียว) จุดเด่นโครงการได้นำเทคโนโลยีโซลาร์ รูฟท็อป เข้ามาใช้กับบ้านในโครงการเพื่อตอบสนองเทรนด์การประหยัดพลังงาน และนำนวัตกรรมเทคโนโลยี Smart Home Monitor ผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล รวมถึงรองรับการติดตั้งสถานี EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เหมาะกับผู้อยู่อาศัยในทุก Generation
ส่วนแผนงานไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าจะทยอยเปิดโครงการใหม่ได้ตามแผน มูลค่าโครงการรวม 6,350 ล้านบาท เน้นทำเลศักยภาพ จังหวัดหัวเมืองที่มีการขยายตัวของเมืองและแหล่งงาน ซึ่งสนับสนุนดีมานด์ที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น เช่น ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นต้น เพื่อรุกสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วประเทศและรองรับแผนงานพัฒนาโครงการต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นในอนาคต
@mitihoonwealth