ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลัง IEA คาดความต้องการใช้ในช่วงหน้าหนาวจะหนุนราคาน้ำมัน
+ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปรับตัวเพิ่มขึ้น สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า ความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว จากการที่ประชาชนจะเปลี่ยนจากการใช้ก๊าซมาเป็นการใช้น้ำมันเพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการทำความร้อนในช่วงฤดูหนาวนี้ (Gas-to-oil switching) โดยคาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันโดยเฉลี่ยในเดือนต.ค. 2565 จนถึงเดือนมี.ค. 2566 จะอยู่ที่ 700,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งคิดเป็นสองเท่าของปีที่แล้ว
+ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) คงคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2565 และ 2566 เท่ากับคาดการณ์ในรายงานประจำเดือนก่อนหน้า โดยขยายตัวที่ 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2565 และ 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2566 ทั้งนี้ เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจยังคงมีการเติบโตที่ดีขึ้นท่ามกลางความท้าทายของปัญหาเงินเฟ้อสูง
– สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสิ้นสุด ณ วันที่ 9 กันยายน 2565 ปรับเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันมาอยู่ที่ระดับ 429.6 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 0.4 ล้านบาร์เรล เช่นกัน ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซิลคงคลังปรับลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังคาดว่าจีนเตรียมออกโควตาส่งออกน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีแรงซื้อในตลาดน้ำมันเบนซินจากอินโดนีเซีย และศรีลังกา อย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังคาดว่าจีนจะออกโควตาส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 1.5 ล้านตัน (12 ล้านบาร์เรล) ทำให้ปริมาณรวมปรับเพิ่มเป็น 24 ล้านตัน อย่างไรก็ตามโควตานี้ยังถือว่าต่ำกว่าปี 2564 อยู่ 36.2%
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp