มิติหุ้น- TNP โดยบล.ดาโอ(ประเทศไทย) แนะนำ ซื้อ ปรับราคาเป้าหมายเป็นปี 2023E อิง 2023E PERที่PER 23.3x เทียบเท่า 5-yr avg PER (เดิมราคาเป้าหมายปี 2022E ที่ 4.80 บาท อิง 2022E PER ที่ 24.6x)
เราคาดกำไรสุทธิ2H22 ยังคงชะลอตัว YoY แต่ฟื้นตัว HoH โดยกำไรลดลง YoY จากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐที่ลดลง สำหรับกำไรสุทธิที่ฟื้นตัว HoH ส่งผลจาก 1) รายได้รวมขยายตัว YoY จาก High Season, การท่องเที่ยวฟื้นตัวทำให้การบริโภคฟื้นตัวและรับรู้ ยอดขายจากสาขาใหม่, 2) GPM ทรงตัวHoH และ3) แม้ SG&A expenses เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายสาขาที่เปิดใหม่แต่กำไรยังคงขยายตัว
เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2022E-23E ลง 30% และ33% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนการฟื้นตัวของการบริโภคที่ช้ากว่าคาด และมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐที่ต่ำกว่าคาด ทั้งนี้ เราคาดกำไรสุทธิปี 2022E ที่ 146 ล้านบาท (-24% YoY) และปี 2023E ที่ 164 ล้านบาท (+13% YoY)
ราคาหุ้น outperform SET +3% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบัน TNP เทรดที่ 2023E PER ที่ 20.4x (-0.75SD below 5-year average PER) ต่ำกว่า peer (บริษัท K&K Superstore หรือ KK) ที่เทรดอยู่ที่42.2x
Event : Company update
แนวโน้มกำไรสุทธิ 2H22E ฟื้นตัว HoH เราคาดกำไรสุทธิ 2H22 ยังคงชะลอตัว YoY จาก
มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐที่ลดลง โดยใน 2H21 คนละครึ่งเฟส 3 วงเงิน 4,500 บาท/คน (Jul – Dec 2022) บัตรสวัสดิการฯ อยู่ที่ 2,800 บาท/คน (Jul- Dec 2022) สำหรับ 2H22E มีมาตรการดังนี้คนละครึ่งเฟส 4 ที่ 800 บาท/คน (Sep – Oct 2022) และบัตรสวัสดิการฯ อยู่ที่ 2,200 บาท/คน (JulDec 2022) สำหรับกำไรสุทธิที่ฟื้นตัว HoH ส่งผลจาก 1) รายได้รวมขยายตัว YoY จาก High Season,การท่องเที่ยวฟื้นตัวทำให้การบริโภคฟื้นตัวและรับรู้ ยอดขายจากสาขาใหม่,
2) GPM ทรงตัว HoH และ3) แม้ SG&A expenses เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายสาขาที่เปิดใหม่แต่กำไรยังคงขยายตัวกำไรสุทธิ 2Q22 ชะลอตัว TNP รายงานกำไรสุทธิ 2Q22 ที่ 34 ล้านบาท (-22% YoY, -4% QoQ) ต่ำกว่าเราคาดมาก กำไรลดลง YoY จาก 1) รายได้รวมลดลง (-4% YoY) จากกำลังซื้อที่ลดลงจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของรัฐที่ลดลง ส่งผลให้SSSG -12%, 2) EBIT margin ปรับตัวลดลงจากGPM ปรับตัวลดลงเป็น 17.4% จาก 17.9% ใน 2Q21 และSG&A expenses ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา สำหรับกำไรลดลง QoQ จากกำลังซื้อที่ปรับตัวลดลง
Implication
ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2022E-23E ลง เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2022E-23E ลง30% และ33% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนการฟื้นตัวของการบริโภคที่ช้ากว่าคาด และมาตรการกระตุ้น
กำลังซื้อของภาครัฐที่ต่ำกว่าคาด ทั้งนี้ เราคาดกำไรสุทธิปี 2022E ที่ 146 ล้านบาท (-24% YoY) จาก
1) รายได้รวมปรับตัวลง -7% YoY จาก SSSG ที่ปรับตัวลดลง -12% YoY และขยายสาขาใหม่ 6 สาขา, 2)GPM ขยายตัวเล็กน้อย และ3) SG&A expenses เพิ่มขึ้นตามการเปิดสาขาใหม่ สำหรับปี 2023E เราคาดกำไรสุทธิที่ 164 ล้านบาท (+13% YoY) จาก 1) รายได้รวมขยายตัว +8% YoY จากกำลังที่ฟื้นตัวหลัง COVID-19 คลี่คลายหนุน SSSG ขยายตัว +6% YoY และรับรู้ รายได้จากสาขาใหม่ และ2) GPMขยายตัว จาก economy of scale
Valuation/Catalyst/Risk
ปรับราคาเป้าหมายเป็นปี 2023E ที่ 4.80 บาท อิง 2023E PER 23.3x เทียบเท่า 5-yr avg PER (เดิมราคาเป้าหมายปี 2022E ที่ 6.40 บาท อิง 2022E PER ที่ 24.6x) โดยเรา derate PER เพื่อสะท้อนการบริโภคที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดจากภาวะเงินเฟ้อ
@mitihoonwealth