มิติหุ้น-CKP โดยบล.กรุงศรี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท คาดปริมาณฝนที่ตกจะเพิ่มขึ้นใน 3Q ตามความเป็นไปได้เกิน 50% ที่จะเกิดภาวะ La Niña ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าการผลิตไฟฟ้าที่โครงการ NN2 จะเพิ่มขึ้นในปีหน้าจากปริมาณน้ำเข้าเขื่อนที่เพิ่มขึ้นช่วยให้ระดับน้ำที่กักเก็บเพื่อการดำเนินงานในปี FY23F เพิ่มขึ้น เรายังคงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมายเอาไว้เท่าเดิมที่ 6.50 บาท
กระแสน้ำเพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม
กระแสน้ำที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี (XPCL) และปริมาณน้ำเข้าเขื่อนน้ำงึม 2 (NN2) เพิ่มขึ้น 32% และ 26% yoy เป็น 6,883 CMS (ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) และ 1,107 MCM (ล้านลูกบาศก์เมตร) ในเดือนสิงหาคมตามลำดับ หนุนโดยสภาพอากาศแบบ La Niña
ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคม XPCL เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต แต่ผลิตไฟฟ้าได้ลดลง 1% yoy ที่ 887GWh เนื่องจากกระแสน้ำที่เข้าเขื่อนสูงเกิน 5,000 CMS ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตลดลงตามเฮดความดัน (pressure head) ที่ลดลง ส่วนในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม XPCL ผลิตไฟฟ้าได้ เพิ่มขึ้น 8% yoy เป็น 1,786GWh
ในขณะที่ปริมาณการผลิตไฟฟ้าเบื้องต้นของโครงการ NN2 ใน 3Q อยู่ที่ 564GWh เพิ่มขึ้น 3% yoy เนื่องจากบริษัทมีแผนจะเพิ่มระดับน้ำในเขื่อนจาก 351 MASL ในเดือนเมษายนให้มากกว่า 360 MASL (เทียบเท่าปริมาณน้ำเข้าเขื่อน 800 MCM)
คากว่าจะได้จะเกิดภาวะ La Niña ในปีนี้
เราคาดว่าฝนจะตกเพิ่มขึ้นใน 3Q จากความน่าจะเป็น ที่จะเกิดภาวะ La Niña สูงเกิน 50% ในช่วงเดือนกันยายน-กุมภาพันธ์
การผลิตไฟฟ้าที่โครงการ NN2 อาจจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า
NN2 ในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 26% yoy เป็น 1,107 MCM ซึ่งหากกระแสน้ำเข้าเขื่อน NN2 ในเดือนกันยายนสูงเกิน 1,000 CMS เช่นเดียวกับในเดือนสิงหาคม เราคาดว่าการผลิตไฟฟ้าของ NN2 จะกลับไปอยู่ระดับปกติ และทำให้ผลประกอบการในปี FY23F ดีขึ้น
คงคำแนะนำซื้อ และราคาเป้าหมายที่ 6.50 บาท
ถ้าหากกระแสน้ำที่โครงการ XPCL ในเดือนกันยายนเป็นเหมือนกับในปี 2021 เราคาดว่ากำไรใน 3Q22 จะอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท เช่นเดียวกับใน 3Q21 แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากระแสน้ำน่าจะเพิ่มขึ้น yoy ในเดือนกันยาน ซึ่งจะหนุนให้ผลประกอบการใน 3Q ดีขึ้น yoy
@mitihoonwealth