ซีพีเอฟ พัฒนาอาหารลด หวาน-เค็ม เน้นความปลอดภัยสูงสุดและสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค

66
มิติหุ้น  –  นางนลินี โรบินสัน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเพื่อผลิตอาหารที่มีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับคนไทยและประชากรโลก เริ่มตั้งแต่กระบวนการคัดสรรและควบคุมวัตถุดิบที่เคร่งครัดตามมาตรฐานสากล ด้วยกระบวนการผลิตที่มีการควบคุมคุณภาพภายใต้มาตรฐานอาหารปลอดภัย GMP (Good Manufacturing Practice) และ HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับได้ทั้งกระบวนการผลิต และกระบวนการขนส่งและจัดเก็บสินค้าภายใต้มาตรฐาน GWP (Global Warming Potential) เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์อาหารมีความปลอดภัยสูงสุดเมื่อส่งถึงมือผู้บริโภค
ซีพีเอฟ ยังคงเดินหน้าผลิตอาหารตามมาตรฐานสากล และมีสินค้าที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน BRC (British Retail Consortium) ซึ่งมีข้อกำหนดที่เข้มงวดกว่า ISO 9001 โดยโรงงานไก่ส่งออกทุกแห่งได้รับการรับรองแล้ว
นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังให้ความสำคัญกับการผลิตอาหารเพื่อส่งเสริมการมีสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค โดยเฉพาะการลดความหวาน มัน เค็ม ในผลิตภัณฑ์อาหารกลุ่มต่างๆ ครอบคลุมการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลน้อย หรือ ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล และได้รับการรับรองให้แสดงสัญลักษณ์ “ทางเลือกสุขภาพ” เช่น IMU สูตรปกติ รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารทางเลือก เช่น อกไก่นุ่ม CP Delight , อาหารพร้อมรับประทาน CP Balance , ผลิตภัณฑ์ไข่แปรรูปต่างๆ  ตลอดจนมีการปรับสูตรอาหารโดยค่อยๆ ลดโซเดียมลง มีเป้าหมายให้ต่ำกว่า 650 มิลลิกรัมต่อหน่วยบริโภค และการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ที่พัฒนาสูตรร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นอาหารสูตรสำหรับผู้ป่วยพักฟี้น หรือมีปัญหาในการย่อยอาหาร ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและแนวโน้มของผลิตภัณฑ์อาหารในอนาคต
นางนลินี กล่าวย้ำว่า สินค้าอาหารพร้อมรับประทาน (Ready meal) และเครื่องดื่มทุกรายการของซีพีเอฟ มีการแสดงฉลากโภชนาการ GDA (Guideline Daily Amounts) ครบถ้วน เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้บริโภคและเลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่เหมาะสมกับสุขภาวะและปริมาณการบริโภคต่อหน่วยต่อวัน
“กระบวนการผลิตอาหารแปรรูปและอาหารแช่แข็งของ ซีพีเอฟ ดำเนินการตามระบบมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด หรือมาตรฐานที่เข้มงวดกว่าและมีการควบคุมตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การทำความสะอาด การใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ที่สามารถลดอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์อาหารได้อย่างรวดเร็ว (fast freezing) ทำให้สามารถรักษาเนื้อสัมผัสของอาหารไว้ได้ดีและยังคงคุณภาพทางด้านโภชนาการ ตลอดการเก็บรักษาและการขนส่ง” นางนลินี กล่าว
ซีพีเอฟ ยังให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนการผลิตจะมีการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่กับการปฏิบัติตามสุขลักษณะที่ดีของพนักงาน เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์อาหารของบริษัทฯ มีคุณภาพตามมาตรฐานและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค และไม่มีส่วนกระตุ้นอาการของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases : NCDs) และโรคต่างๆ

 

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp