วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

74

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลัง OPEC+ ไม่สามารถปรับเพิ่มปริมาณการผลิตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 2.892 และ 3.583 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค 65 และส.ค. 65 ตามลำดับ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าทางกลุ่มอาจไม่สามารถปรับเพิ่มปริมาณการผลิตได้ตามเป้าที่วางไว้ในครั้งถัดไป เนื่องจากข้อจำกัดหลักด้านกำลังการผลิตสำรอง

+ จีนประกาศยกเลิกล็อกดาวน์เมืองเฉิงตู หลังจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ประชาชนในเมืองจำเป็นต้องตรวจโควิดโดยปรากฏผลเป็นลบเป็นระยะเวลา 72 ชั่วโมง ก่อนเข้าสู่พื้นที่สาธารณะ

– ราคาน้ำมันดิบถูกกดดัน หลัง CME Group คาดการณ์ความเป็นไปได้ถึง 80% ที่ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps สู่ระดับ 3.00-3.25% และความเป็นไปได้ 20% ที่ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 100 bps ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. 65 นี้ ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องของ FED เพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ตลาดยังคงกังวลเศรษฐกิจโลกหดตัว

ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานมีแนวโน้มปรับลดลง เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่น ขณะที่ความต้องการใช้ในประเทศอินโดนีเซียมีแนวโน้มปรับลดลง จากราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินในประเทศปรับตัวสูงขึ้น หลังรัฐบาลอินโดนิเซียได้ยกเลิกเงินอุดหนุนพยุงราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดยังคงกังวลอุปทานตึงตัว จากการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซียในช่วงเข้าใกล้เส้นตายห้ามซื้อขายน้ำมันสำเร็จรูปของรัสเซียอย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการณ์จีนมีแนวโน้มออกโควต้าการส่งออกครั้งใหม่ ส่งผลให้อุปทานมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น

 

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp