BIS เตรียมเปิดไลน์การผลิตใหม่ผลิตอาหารเสริมสารทดแทนน้ำมันสำหรับสัตว์ เจ้าแรกในไทย ร่วมพัฒนาวิจัยกับ สวทช. ใช้แทนวัตถุดิบที่ราคาพุ่งแรง เร่งผลงานครึ่งปีหลัง ดันผลงานปีนี้ เติบโตตามเป้า 20%

167

มิติหุ้น  –  นายสัตวแพทย์ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า BIS เพิ่มไลน์การผลิตและเริ่มผลิตสินค้าสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสำหรับสัตว์ (Nutrition) ใหม่ประเภท “สารทดแทนน้ำมันในอาหารสัตว์” ภายใต้ชื่อแบรนด์ Lypotech EC เป็นรายแรกในไทย ที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ในเดือนตุลาคมนี้

โดยบริษัทฟีด แอนด์ อินกรีเดียน เทคโนโลจิคัล ฮับ จำกัด (FAITH) หนึ่งในบริษัทย่อยของ บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIS  ได้ตระหนักถึงปัญหาของความผันผวนในราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ จึงได้ร่วมมือกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTECH) หรือ สวทช. วิจัยพัฒนาวัตถุดิบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของอาหารสัตว์ และลดต้นทุนการผลิตของฟาร์ม จนได้เป็นสูตรที่เหมาะสม สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของอาหารสัตว์ได้จริง BIS จึงนำมาต่อยอดผลิตในระดับอุสาหกรรมได้เพื่อใช้ประโยชน์ในวงกว้าง ลดภาระของเจ้าของฟาร์ม โดย BIS จะเริ่มผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสำหรับสัตว์ (Nutrition) ใหม่ประเภท “สารทดแทนน้ำมันในอาหารสัตว์” ภายใต้ชื่อแบรนด์ Lypotech EC ที่เป็นสารที่ให้พลังงาน ช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้ประโยชน์วัตถุดิบกลุ่มพลังงานของสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถใช้แทนน้ำมันพืช น้ำมันปาล์ม ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง และธัญพืชได้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้า ฟาร์มสัตว์ปีก ฟาร์มสุกร และฟาร์มสัตว์น้ำทั่วประเทศ เนื่องจาก Lypotech EC ประหยัดกว่าการใช้น้ำมันพืช อีกทั้งยังมีราคาคุ้มค่า และการที่ผลิตในประเทศทำให้ราคาสามารถแข่งขันกับคู่แข่งที่นำเข้ามาได้ ช่วยเจ้าของฟาร์มลดต้นทุนอาหารสัตว์ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนหลักได้ดี

BIS มีโรงงานผลิตสินค้าของบริษัทฯ ที่ได้มาตรฐานสากล ผ่านการรับรอง GMP HACCP โดยมุ่งเน้นการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสำหรับสัตว์ (Nutrition Product) ประเภทสารผสมล่วงหน้า (Premix) ในอาหารสุกร อาหารสัตว์ปีก และอาหารวัวเป็นหลัก ที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่ปี 2564 เนื่องจากเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการของตลาดสูง ซึ่งผลิตเป็นแบรนด์ของบริษัทเอง เช่น Optimix, Nutrimix เป็นต้น แทนการจ้างผลิต เพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ความคล่องตัวในการผลิต การจัดจำหน่าย และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ BIS มีแผนที่จะเพิ่มการผลิตสินค้าต่างๆ อย่างเต็มที่ในปี 2566 เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการบริโภคสุกรที่กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการ ไตรมาส 2 ของปี 2565  BIS มีรายได้รวม 502  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากรายได้รวม 492  ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 และมีกำไรสุทธิ 13.2 ล้านบาท ลดลงจากกำไรสุทธิในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักจากการลดราคาเพื่อระบายสต็อคสินค้าที่ใกล้หมดอายุ จึงทำให้มีอัตรากำไรน้อยลง แต่ทั้งนี้เป็นการได้รับผลกระทบเพียงชั่วคราวเท่านั้น และคาดว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯจะปรับตัวดีขึ้นสู่อัตราปกติในครึ่งปีหลัง และคาดว่าธุรกิจปศุสัตว์ และสัตว์เลี้ยงจะเติบโตได้ตามเป้าหมายปีนี้คือ มากกว่า 20%”

BIS ได้ผสมผสานจุดแข็งบริษัทฯ คือความเชี่ยวชาญด้านสัตว์แพทย์ ด้านการวิจัยพัฒนา เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการตลาดและการขาย โดยใช้จุดแข็งบริษัทฯ ที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ทั้งฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็กทั่วประเทศ รวมถึงฐานลูกค้าเครือข่ายโรงพยาบาลสัตว์และคลินิครักษาสัตว์ทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง จากความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ดี และทีมงานเป็นสัตว์แพทย์ จึงมีความเข้าใจความต้องการของ เจ้าของฟาร์ม สัตวแพทย์ สถานประกอบการโรงพยาบาลและคลินิกสัตว์เลี้ยงได้เป็นอย่างดี”

บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) (BIS) พร้อมที่จะพัฒนาและก้าวไปสู่หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมไบโอเทคของประเทศไทย โดยมุ่งหวังที่จะส่งต่อสินค้า บริการ รวมถึงเทคโนโลยีที่มีคุณค่า สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp