อสังหาฯปล่อยเช่า ย่าน CBD พญาไท-พร้อมพงษ์คึก รับดีมานด์ต่างชาติยุค “รีโอเพนนิ่ง” “ออริจิ้น” ส่ง “แฮมป์ตัน” เจาะตลาดนักลงทุนระยะยาว ชูผลตอบแทนสูงสุด 9%

153

มิติหุ้น  –  สิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ Head of Investment Property Program บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ กล่าวว่า พญาไท ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของบรรดาบริษัทข้ามชาติ ที่ต้องการเข้ามาตั้งสำนักงานในไทย เนื่องจากเป็นทำเลติดรถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังแหล่งใจกลางธุรกิจ (CBD) อื่นๆ ได้ง่าย ขณะเดียวกัน ยังเป็นสถานีเชื่อมต่อกับ Airport Rail Link ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ สะดวกต่อการเดินทางไปกลับระหว่างประเทศ ที่ผ่านมา พญาไทจึงเป็นทำเลที่มีอัตราการเช่าอาคารสำนักงาน (Occupancy Rate) สูงเป็นอันดับ ของกรุงเทพฯ ด้วยอัตราการเช่าเฉลี่ย 94.9% และส่งผลให้ตลาดเช่าที่อยู่อาศัยแบบ Long Stay ในย่านนี้คึกคักไปด้วย

 

“เมื่อรีโอเพนนิ่ง สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ พญาไทจะคึกคักยิ่งขึ้น เมื่อก่อนย่านนี้เราจะเห็นกลุ่ม Expat เป็นชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย จีน แต่วันนี้เราเริ่มเห็นชาวเกาหลีใต้เข้ามาพักในย่านนี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สังเกตได้ว่าย่านนี้เริ่มมีร้านอาหารสำหรับชาวเกาหลีใต้ เป็นแหล่งคอมมูนิตี้เพิ่มขึ้น พญาไทจะกลายเป็นทำเลหลักแห่งหนึ่งของบรรดาพนักงานระดับ Middle Management ไปจนถึงระดับ Middle-Top Management ที่ต้องการความสะดวกในการเดินทาง” สิริพงศ์ กล่าว  

 

ปัจจุบัน เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ระดับ ดาวในพญาไท ยังถือเป็น Rare Item ของย่าน ส่งผลให้อัตราค่าเช่าสำหรับห้องพักแบบ ห้องนอน เฉลี่ยอยู่ที่ 46,000 บาทต่อเดือน และแบบ 2 ห้องนอนสูงถึง 85,000 บาทต่อเดือน ในอนาคต พญาไทยังมีแนวโน้มจะเป็นทำเลฮอตฮิตยิ่งกว่าเดิม ทั้งจากปริมาณพื้นที่อาคารสำนักงานที่จะเพิ่มขึ้นอีกราว 120,000 ตร.ม.ภายในปี 2566 และจากความโดดเด่นของการเป็นย่านการแพทย์ หรือ Medical District ด้วยจำนวนโรงพยาบาลชั้นนำพร้อมรองรับชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการในไทย รองรับการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub

 

อีกทำเลหนึ่งที่น่าสนใจมาก คือทำเล “พร้อมพงษ์” สิริพงศ์ เล่าว่า ทำเลสุขุมวิทตอนกลาง (Mid-Sukhumvit) ถือเป็นทำเลที่ “ไม่ต้องพูดเยอะ” โดยเฉพาะพร้อมพงษ์ ที่เป็น “ย่านอินเตอร์” รวมชาวต่างชาติจากทุกเชื้อชาติ ตั้งแต่ ยุโรป อเมริกา รวมไปถึงเอเชีย อย่างญี่ปุ่น เป็นย่านทรงเสน่ห์ที่มีแหล่งไลฟ์สไตล์รองรับการใช้ชีวิตของชาวต่างชาติทุกเชื้อสายประเทศ เป็นทำเลที่มีเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ครบทุกแบรนด์ต่างประเทศ ที่สำคัญ คือ มีเมกะโปรเจกต์รองรับการจัดอีเวนท์ระดับประเทศ อย่าง ศูนย์สิริกิติ์ใหม่ ที่เพิ่งแล้วเสร็จ นอกจากนี้ ยังเป็นทำเลที่ใกล้ สวนใหญ่ อย่างสวนเบญจสิริ สวนเบญจกิตติ และสวนลุมพินี เป็นที่โปรดปรานของชาวต่างชาติ ส่งผลให้ทำเลพร้อมพงษ์ ก้าวกระโดดมาเป็นอันดับต้นๆ ในสุขุมวิท มีความต้องการที่พักแบบ Long Stay จากกลุ่มชาวต่างชาติสูง สังเกตได้ว่าเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์แบรนด์ Ascott ของบริษัทบริเวณใจกลางพร้อมพงษ์ มีอัตราการเข้าพักเต็มตลอดทั้งปี สะท้อนถึงความน่าสนใจของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในทำเลดังกล่าว 

 

สิริพงศ์​ ย้ำว่า จากจุดเด่นดังกล่าว บริษัทจึงได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนภายใต้ชื่อ HAMPTON Investment Property Program และร่วมกับบริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HHR) แก้ Pain Point ของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเปิดให้ผู้บริโภคลงทุนเป็นเจ้าของเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์หรูระดับ ดาว ในโครงการแฮมป์ตัน เรสซิเดนซ์ พญาไท (Hampton Residence Phayathai) และแฮมป์ตัน เรสซิเดนซ์ เน็กซ์ ทู เอ็มโพเรียม (Hampton Residence Next to Emporium) ที่เป็น โปรเจกต์เรือธง ของทาง ORI พร้อมกับมีทีมของ HHR เข้ามาช่วยจัดหาผู้เช่าแบบ Long-Stay ลดภาระผู้เช่าต้องวุ่นวายหาผู้เช่า รับเรื่องจุกจิกเอง พร้อมได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอในอัตรา 5-9% ต่อปี ยาวนานสูงสุด 20 ปี 

 

ทั้งนี้ จุดเด่นของ HHR คือการเป็นพันธมิตรกับบริษัทจัดหาที่พักสำหรับชาวต่างชาติ (Relocation Agent) มากกว่า 70 ราย มีเครือข่ายบริษัทญี่ปุ่นและบริษัทในเอเชียที่ส่ง Expat เข้ามาทำงานในไทยและต้องการที่พักระยะยาวอย่างต่อเนื่องมากกว่า 2,000 บริษัท จึงช่วยให้ผู้ลงทุนมั่นใจได้ว่า การลงทุนจะได้รับผลตอบแทนมั่นคงตามที่ตกลงไว้

 

“ปีนี้ กลุ่มสินทรัพย์เสี่ยง เช่น คริปโทเคอร์เรนซี ตลาดหุ้นทั่วโลก มีความผันผวนอย่างมาก การกระจายความเสี่ยงมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและมั่นคงกว่า แข็งแกร่งพอจะสู้กับภาวะเงินเฟ้อ จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนกำลังให้ความสำคัญ เราเชื่อมั่นว่าสินทรัพย์ในทำเลศักยภาพอย่างพญาไทและพร้อมพงษ์ และระบบการบริหารจัดการสินทรัพย์ของเรา จะเป็นส่วนสำคัญเข้าไปแก้ Pain Point ให้แก่นักลงทุนกลุ่มนี้” สิริพงศ์ กล่าว

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp