มิติหุ้น – บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) โดย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดกำไรสุทธิ 3Q65 ที่ 2,217 ลบ. และคาดกำไรปกติที่ 1,867 ลบ.(-30.0%QoQ, +5.4%YoY) เติบโตได้จาก ธุรกิจหลักที่แข็งแกร่ง โดยคาดรายได้เติบโตได้ในทุกธุรกิจ และ GPM ฟื้นตัวทั้ง QoQ และ YoY จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงด้าน Recession ใน ยุโรป และสหรัฐฯ เนื่องจากสินค้ามีความจำเป็นต่อการ ดำรงชีวิต และราคาต่ำกว่าเทียบกับอาหารชนิดอื่น ขณะที่ ต้นทุนไฟฟ้าในยุโรปที่สูงขึ้นบริษัทได้รับผลกระทบจำกัดเช่นกัน
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มกำไรของ TU หลังงาน Yuanta Corporate day วานนี้ (28 ก.ย.) และปรับ ประมาณการกำไรปกติปี 2565 และปี 2566 ขึ้น 15.7% และ 1.3% เป็น 7,047 ลบ. (-12.7% YoY) และ 7,541 คบ.(+7.0%YoY) ตามลำดับ
ผลของการปรับประมาณการขึ้น และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสั้น ปี 2566 ยิ่งวิธี SOTP ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 23.50 บาท คง คำแนะนำ “ซื้อ”
พร้อมคาดเบื้องต้นผู้ถือหุ้น TU จะได้สิทธิในการซื้อหุ้น ITC ที่ราคา IPO สัดส่วน 36 หุ้น TU ต่อ 1 หุ้น ITC
ขณะที่ นักวิเคราะห์ บล โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า TU น่าสนใจลงทุนในสถานการณ์ดัชนีตลาดหุ้นผันผวนเช่นนี้ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนน้ำมัน แต่ได้รับอานิสงค์จากค่าเงินบาทอ่อน เคาะแนวต้านแรก 19 บ.หากผ่านได้มีลุ้นต้านถัดไป 20 บาท
@mitihoonwealth