วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

64

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดจับตาการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท๊กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังนักวิเคราะห์คาดการณ์กลุ่ม OPEC+ มีแนวโน้มปรับลดกำลังการผลิตราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ เพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยหากทางกลุ่มมีมติปรับลดกำลังการผลิต จะถือเป็นการปรับลดกำลังการผลิต 2 เดือนติดต่อกัน หลัง OPEC+ มีมติลดกำลังการผลิต 100,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือนที่ผ่านมา

+ ตลาดได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวอ่อนค่าลง ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาถูกลง และเพิ่มความดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นให้มาสนใจลงทุนในสัญญาน้ำมันดิบมากขึ้น

– ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหภาพยุโรป เดือน ก.ย. 65 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 10.0 % Y-o-Y สูงกว่าคาดที่ระดับ 9.7 % ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดผ่านการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง

ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอินโดนีเซียมีแนวโน้มปรับลดการนำเข้าน้ำมันเบนซิน จากอุปสงค์ภายในประเทศที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดคลายกังวลต่อการประกาศโควต้าการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปครั้งใหม่ หลังทางการจีนไม่ได้กำหนดกรอบเวลาการส่งออกที่ชัดเจน สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีกรอบเวลาการส่งออกภายในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp