วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

108

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังกลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับลดการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ตามคาด

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังผลการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันพุธที่ผ่านมา มีมติปรับลดกำลังการผลิตลงกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 2 ของอุปทานน้ำมันดิบทั่วโลก เพื่อตอบสนองอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น และสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัว อย่างไรก็ดี ตลาดคาดการณ์ว่าทางกลุ่มจะปรับลดกำลังการผลิตจริงลงเพียง 1  ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน พ.ย. เท่านั้น จากการผลิตต่ำกว่าแผนในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563

+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย. 65 ปรับตัวลดลงกว่า 1.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 429.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล

+/- สหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ และกดดันทางกลุ่มไม่ให้ปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม ซึ่งหากราคาพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งครึ่งเทอมของสหรัฐฯ ที่จะมีในวันที่ 8 พ.ย. 65 อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ กำลังประเมินสถานการณ์ พิจารณาว่าจะระบายน้ำมันจากคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์หรือไม่

ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอินเดีย หลังได้รับแรงสนับสนุนจากเทศกาลดุชเซห์รา ท่ามกลางอุปทานน้ำมันเบนซินที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามโควต้าการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันของจีน

ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มลดลง จากอุปสงค์ที่ปรับสูงขึ้นในยุโรปเพื่อรองรับการใช้ในช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึง

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp