มิติหุ้น – นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ “DPAINT”เปิดเผยว่า บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT ได้จัดงานประชุมสุดยอดพันธมิตรครั้งยิ่งใหญ่ ต้อนรับคู่ค้าทางธุรกิจทั่วประเทศไทย ที่โรงแรม Pullman Bangkok King Power และได้เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาและวิจัยใน Delta Paint Quality Lab ซึ่งสินค้าที่เป็นมาสเตอร์พีซในงาน และได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากกลุ่มผู้ประกอบการ ทำให้ยอดสั่งจองสินค้าสูงถึง 100 ล้านบาท ได้แก่ 1.DELTA SHIELD 4D สีทาอาคาร สีคุณภาพสูงที่เป็นสินค้าตัวหลักของสีเดลต้า มานานกว่า 20 ปี ทั้งนี้ ได้มีการปรับรูปแบบและพัฒนาสูตรโดยใช้นวัตกรรมใหม่ เพื่อคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่ม 2.DELTA FIBER CEMENT SHIELD (สีไฟเบอร์ซีเมนต์)และ 3.DELTA DECKING STAIN
(สีทาไม้สังเคราะห์) ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของบริษัทฯ ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อรองรับกับทุกการใช้งาน และตรงกับความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้าในตลาด โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย สะดวกต่อการใช้งาน ทั้งนี้ DPAINT ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
บริษัทฯ วางเเผนที่จะขยายส่วนเเบ่งการตลาด ในตลาดสีระดับกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ โดยใช้กลยุทธ์การสร้างเเบรนด์ และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทีตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้สูง นอกจากนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าส่งออกสีทาอาคารใน CLMV ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นนวัตกรรม “VAKUUM Technology” จากประเทศเยอรมนี และรุกตลาด Blue Ocean มากยิ่งขึ้น พร้อมสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม ทั้งสีทาอาคารและ กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ กลุ่มเคมีก่อสร้าง รวมถึงขยายกลุ่มเซ็กเม้นท์พรีเมียม เพื่อสนับสนุนอัตรากำไรให้อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของ DPAINT มีสัดส่วนสีคุณภาพพิเศษ 40% สีคุณภาพสูง 30% และสีคุณภาพคุ้มค่า 30% ของรายได้รวมจากการขายและบริการ โดยจำหน่ายผ่านช่องทางการจำหน่ายรวมกันมากกว่า 1,500 สาขา เกือบทั่วประเทศ ได้แก่ ร้านโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) ร้านค้าปลีก (Retail) และงานโครงการ (Project) รวมทั้ง การบริการเครื่องผสมสีที่นำไปติดตั้งให้ลูกค้าที่เป็นร้านค้าใช้งาน
ซึ่งในปัจจุบัน บริษัทฯ มีเครื่องผสมสีทั้งหมด 505 เครื่อง โดยตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 600 เครื่อง ภายในสิ้นปี 2565 นี้ เพื่อเป็นการขยายช่องทางในการจัดจำหน่ายที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น และจัดจำหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
@mitihoonwealth