มิติหุ้น – นายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการหลังการขาย และธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ และ IoT (Internet of Things) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับรางวัล Thailand Sustainability Investment (THSI) หรือ หุ้นยั่งยืน ประจำปี 65 เป็นปีที่ 4 จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดย AH เป็น 1 ใน 170 บริษัทจดทะเบียนที่ผ่านการประเมินคุณสมบัติตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด ในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรม สะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ พัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่อง พร้อมรับมือกับปัจจัยการเปลี่ยนแปลงด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน รวมถึงพนักงาน ชุมชน และสังคมผ่านกระบวนการทางธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เริ่มจัดทำรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI มาตั้งแต่ปี 58 เป็นรายชื่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG)
โดยบริษัทที่อยู่ใน THSI ต้องมีผลคะแนนจากการตอบแบบประเมินความยั่งยืนอย่างน้อย 50% ในแต่ละด้าน ESG หรือเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) และต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ผลการประเมินคุณภาพรายงานด้านบรรษัทภิบาล (Corporate Governance Reporting หรือ CGR) ผลประกอบการด้านกำไรสุทธิและส่วนของผู้ถือหุ้น ผลการกำกับดูแลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของบริษัทจดทะเบียน และการไม่สร้างผลกระทบด้าน ESG การเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ถูกขึ้นเครื่องหมาย C เป็นต้น
ทั้งนี้ รายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI 170 บริษัท แบ่งเป็น บจ. ใน SET 157 บริษัท และ mai 13 บริษัท กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีจำนวน บจ. ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มบริการ 33 บริษัท กลุ่มทรัพยากร 28 บริษัท และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 27 บริษัท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ฝ่ายวิจัยคาดกำไรไตรมาส 3/65 ของ AH ฟื้นตัวเด่น ทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากปีก่อน คาดกำไรปกติไตรมาส 3/65 ที่ 329 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 160% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกจาก 1) ยอดขายฟื้นตัว 8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 56% จากปีก่อน เป็น 6,630 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากผลของฤดูกาล ที่ไตรมาส 2 ปกติเป็น Low season วันหยุดยาวหลายวัน ขณะที่ฟื้นตัวเด่นจากปีก่อนตามอุตสาหกรรม จากข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรม ในเดือน ก.ค.-ส.ค. ยอดผลิตรถยนต์ของประเทศไทย เติบโตถึง 39% จากปีก่อน และ AH ยังได้ผลบวกจากการผลิตชิ้นส่วนโมเดลรถกระบะให้ลูกค้าฟอร์ดเข้ามา
2) ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น โดย EBITDA Margin ปรับเพิ่มจากไตรมาส 3/64 ที่ 8.2% เป็น 8.9% จากผลของยอดขายที่เพิ่ม และพบว่าราคาวัตถุดิบหลายตัว อาทิ เหล็ก พลาสติก ราคาเริ่มปรับลดลง ขณะที่บริษัทมีการเจรจาปรับขึ้นราคาวัตถุดิบกับลูกค้าไปแล้วก่อนหน้านี้ และ 3) ตลาดต่างประเทศ บริษัทลูกที่โปรตุเกส คาดพลิกจากขาดทุนในช่วงครึ่งแรกปี 65 กลับมาถึงจุดคุ้มทุน
ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยฝ่ายวิจัยยังคงเลือก AH เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มยานยนต์ ด้วยแนวโน้มกำไรปี 65-66 ที่คาดว่าจะเติบโตเด่นกว่าอุตสาหกรรม ประเมินมูลค่าพื้นฐาน ปี 66 ที่ 37.60 บาท อิง PER เฉลี่ย ที่ 10 เท่า ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER 7.8 เท่า ของ EPS ในปี 66 ซึ่งยังมี Upside จากราคาเป้าหมาย 28% และคาดผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 65-66 ที่ 4.1% และ 4.2% โดยฝ่ายวิจัยมองว่ายังมี Upside risk ในการปรับเพิ่มประมาณการ จากประเด็นบวกที่ฝ่ายวิจัยยังไม่รวมในประมาณการ ได้แก่ แผนตั้งโรงงานใหม่ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ CLMV ซึ่งยังไม่ได้แจ้งรายละเอียด
@mitihoonwealth