“เงินติดล้อ” ไม่กระทบ หลังออมสิน ประกาศตั้ง Non-Bank ในปี 66 

390

“เงินติดล้อ” ไม่กระทบ หลังออมสิน ประกาศตั้ง Non-Bank ในปี 66 แจงลูกค้าคนละกลุ่ม มั่นใจพื้นฐานธุรกิจแกร่ง พร้อมรับการแข่งขันในอนาคต

 

นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR กล่าวว่า จากกรณีที่ธนาคารออมสินประกาศเตรียมทำธุรกิจบริการด้านการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) ในปี 2566 โดยให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล (P-Loan) และจะคิดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 20% ต่อปี รวมถึงการมีแผนเข้ามาให้บริการสินเชื่อที่ดินและขายฝากตามที่เป็นข่าวนั้น เงินติดล้อมั่นใจว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจหลักเป็นการให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และกลุ่มผู้ใช้สินเชื่อยังเป็นคนละกลุ่มกัน โดยกลุ่มลูกค้าของเงินติดล้อเป็นกลุ่มสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน

นอกจากนี้ เงินติดล้อยังมีจุดแข็งในการให้บริการผ่าน “บัตรติดล้อ” บัตรกดเงินสดหมุนเวียนแบบไม่กดใช้ไม่เสียดอก ที่จะช่วยให้ผู้ขอสินเชื่อทะเบียนรถสามารถกดเงินสดตามวงเงินสินเชื่อของตนเองผ่านตู้ ATM ของธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั่วประเทศ ช่วยให้สามารถเข้าถึงเงินทุนในยามที่ต้องการ ได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็วและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยลดขั้นตอนในการยื่นเอกสารขอสินเชื่อใหม่ และลดต้นทุนการเดินทางมารับบริการที่สาขา เพื่อให้สามารถนำเงินไปใช้แก้ปัญหาหรือฟื้นฟูกิจการของตนเอง และยังเป็นการลดการพึ่งพาแหล่งเงินทุนนอกระบบอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี อีกทั้งที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังสามารถสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจนายหน้าประกันภัยได้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และสามารถเติบโตได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ส่งผลให้รายได้ที่มาจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ธนาคารหันมาให้ความสนใจกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือเกษตรกร ที่มีหลักแหล่งรายได้ไม่แน่นอน เพื่อมีส่วนช่วยให้ประชาชนกลุ่มฐานราก (underbanked) มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบเพิ่มขึ้น ส่วนด้านของผู้ประกอบการ non-bank จำเป็นต้องปรับตัวและสร้างพื้นฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง เพื่อให้สามารถรองรับการแข่งขันทางธุรกิจได้ในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาเงินติดล้อให้ความสำหรับกับการสร้างพื้นฐานธุรกิจโดยใช้นวัตกรรมอยู่ก่อนหน้าแล้ว จึงมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันในธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp