SCB นำร่องเสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงอ้างอิงดอกเบี้ย THOR Link Binary Note ระหว่างวันที่17-20 ตุลาคมนี้ อายุ 2 ปีโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุด 2.50%ต่อปี

68

มิติหุ้น – ธนาคารไทยพาณิชย์เปิดจำหน่ายหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงอ้างอิงดอกเบี้ย THOR Link Binary Note เป็นรายแรกของประเทศไทย เสนอขายระหว่างวันที่ 17 -21 ตุลาคม นี้  อายุโครงการ 2 ปี จ่ายผลตอบแทนทุก 3 เดือน รับผลตอบแทนสูงสุด 2.50% ต่อปี  คุ้มครองเงินต้น 100% เจาะกลุ่มลูกค้า High Net  Worth เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีมุมมองว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่รุนแรง และมีโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ พร้อมมุ่งเน้นพัฒนาโปรดักส์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงเวลา

นายแพททริก ปูเลีย Head of Financial Markets Function   ธนาคารไทยพาณิชย์  จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า จากความนิยมใช้อัตราดอกเบี้ย  Thai Overnight Repurchase (THOR –  อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงตลาดซื้อคืนพันธบัตรภาคเอกชนระยะข้ามคืนระหว่างธนาคาร)  เริ่มแพร่หลายและมีสภาพคล่องที่เพิ่มสูงขึ้น  สามารถสร้างโอกาสนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่อ้างอิงดอกเบี้ยดังกล่าว ในเชิงลึกได้เพิ่มมากขึ้น  ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้สามารถริเริ่มสร้างตราสารอนุพันธ์ใหม่ๆเพิ่มเติม   ธนาคารจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์THOR Link Binary Note   เป็นรายแรกของประเทศไทย   เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนในตลาดการเงินที่กำลังขยายตัว

ธนาคารจึงได้เปิดจำหน่าย หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย ประเภท  THOR Link Binary Note ออกโดยธนาคารไทยพาณิชย์  รุ่น SCB24OE  เสนอขายระหว่างวันที่  17 – 20 ตุลาคม  2565  อายุการลงทุน 2  ปี  ( 21 ต.ค.2565 – 21 ต.ค. 2567)  และคุ้มครองเงินต้น 100% เมื่อถือจนครบกำหนดไถ่ถอน    โดยจ่ายผลตอบแทนทุก 3 เดือน ซึ่งธนาคารจะจ่ายผลตอบแทนทั้งสิ้นจำนวน  8 งวด เริ่มจ่ายงวดแรกในวันที่ 23 มกราคม 2566 และสิ้นสุดงวดสุดท้ายในวันที่  21 ตุลาคม  2567 มีเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนที่อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง THOR ดังนี้

1)หากอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยแบบ Compound ของ THOR ระยะเวลา 3 เดือน น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2.25% ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน 2.50% ต่อปี

2)หากอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยแบบ Compound ของ THOR ระยะเวลา 3 เดือนมากกว่า 2.25% ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน 0% ต่อปี

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย  THOR มีความเคลื่อนไหวใกล้ชิดกับดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ปัจจุบัน ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.00% และ THOR อยู่ที่ 0.98995% ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2565

นายศรชัย  สุเนต์ตา  ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Office and Product  และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารฝ่าย SCB Chief Investment Office  (SCB CIO ) ธนาคารไทยพาณิชย์  จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยประเภท THOR Link Binary Note จะเน้นเสนอขายกลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่ ((High Net Worth ) เงินลงทุนขั้นต่ำ  5  ล้านบาท ทวีคูณครั้งละ 1  ล้านบาท   สำหรับจุดเด่นของหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงดังกล่าว เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มองว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบไม่รุนแรงในช่วงอายุของการลงทุน และเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำ   และสามารถยอมรับได้กรณี Worst case ที่ผลตอบแทนบางงวดหรือทุกงวดอาจได้รับเท่ากับอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำที่ 0% ต่อปี ถ้าดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับจังหวะและโอกาสการลงทุนในช่วงเวลานี้  เหมาะสำหรับการออกหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย ประเภท  THOR Link Binary Note    เนื่องจากมองว่า ดอกเบี้ยนโยบายของไทย มีโอกาสปรับขึ้นได้ไม่มากนัก การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในเดือนธันวาคมนี้ ผลการประชุมอาจมีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ1.25% และ THOR มีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปสู่ในระดับใกล้เคียงกัน  ซึ่งทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปี 2566 จะเป็นขาขึ้นตามทิศทางของโลก แต่คาดว่า กนง. น่าจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอัตราที่ช้ากว่าดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ เพราะประเทศไทยแม้เศรษฐกิจกำลังขยายตัวดี แต่มีหนี้สินครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากๆจะกระทบกับการบริโภค และส่งผลกระทบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังเริ่มดีขึ้น  ดังนั้น จึงมองว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปีหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ  1.75% – 2.00% และในปี 2567 มองว่าอัตราเงินเฟ้อโลกน่าจะปรับตัวลดลง สหรัฐจะหยุดการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันการขึ้นดอกเบี้ยของไทย และคาดว่าไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยต่อ โดยจะทำให้ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะเข้าสู่จุดสมดุล  ดังนั้น ในช่วงเวลานี้ การลงทุนในหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงดังกล่าว นับว่าเป็นหลุมหลบภัยที่ดี ในการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุนในช่วงภาวะตลาดโลกมีความผันผวน หรืออาจเผชิญกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกก็ตาม

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp