“เอนวิชัน ดิจิทัล” จัดตั้งความร่วมมืออุตสาหกรรมครั้งแรกกับหน่วยงานรัฐบาลมาเลเซีย เพื่อเร่งบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน

51
From left to right: Michael Ding, Global Executive Director of Envision Digital; Lei Zhang, CEO of Envision Group; Yang Berbahagia Dato’ Iskandar Abdul Samad, Chairman of MGTC; Yang Berbahagia Dato’ Seri Ir. Dr. Zaini bin Ujang, Secretary General of KASA; Shamsul Bahar Bin Mohd Nor, CEO of MGTC
  • พิธีแลกเปลี่ยนเอกสารจัดขึ้นที่งานประชุมและจัดแสดงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อ
    มนานาชาติ (IGEM) โดยมีเลขาธิการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำร่วมเป็นสักขีพยาน
  • MGTC และเอนวิชัน ดิจิทัล เตรียมนำเสนอระบบปฏิบัติการคาร์บอนต่ำ (LCOS)
    ที่ช่วยให้องค์กรท้องถิ่นขนาดใหญ่และขนาดเล็กติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้แบบเรียลไทม์
  • LCOS จะเข้าถึงบริษัทเกือบ 1,000 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซา มาเลเซีย และ SME
    1.2 ล้านราย
  • มอบแผนงานชั้นนำระดับโลกรองรับความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน
    เพื่อเร่งบรรลุเป้าหมายระดับประเทศในการปลดปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ในตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก
    กัวลาลัมเปอร์,

มิติหุ้น – องค์กรการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งมาเลเซีย (Malaysian Green Technology and Climate Change Corporation หรือ MGTC) ในสังกัดกระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำ (KASA) จับมือเอนวิชัน ดิจิทัล (Envision Digital) ผู้นำซอฟต์แวร์การกำจัดคาร์บอนสำหรับการปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือฉบับใหม่ เพื่อเร่งการเดินทางสู่การปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ของมาเลเซีย และส่งเสริมการติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์แบบเรียลไทม์สำหรับองค์กรท้องถิ่น

พิธีแลกเปลี่ยนเอกสารจัดขึ้นที่งานประชุมและจัดแสดงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนานาชาติ (International Greentech & Eco Products Exhibition & Conference Malaysia หรือ IGEM) โดยมีดร.ไซนิ บิน อูจาง (Yang Berbahagia Dato’ Seri Ir. Dr. Zaini bin Ujang) เลขาธิการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำ ร่วมเป็นสักขีพยาน

ความร่วมมือนี้จะนำเสนอแผนงานที่ดีที่สุดเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วโลกทำงานร่วมกัน เพื่อสนับสนุนชุมชนธุรกิจในการเร่งสร้างการปลดปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ให้เป็นวาระแห่งชาติ เป็นไปตามการประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของเอนวิชัน (Envision) กับรัฐบาลสเปนในเดือนกรกฎาคม เพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่ปลดปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์แห่งแรกของยุโรป

ภายใต้แผนมาเลเซียฉบับที่ 12 มาเลเซียได้ประกาศเป้าหมายที่ทะเยอทะยานในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และลดความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) เทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ลง 45% ภายในปี 2573 ความร่วมมือระหว่างเอนวิชัน ดิจิทัล กับ MGTC จะช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีเครื่องมือและความสามารถที่จำเป็นในการติดตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ในความร่วมมือครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาระบบปฏิบัติการคาร์บอนต่ำ (LCOS) เพื่อให้ธุรกิจในท้องถิ่นทุกขนาดทั่วประเทศมาเลเซียตรวจสอบและจัดการการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ โดยจะใช้ได้กับทุกบริษัทในมาเลเซีย รวมถึงบริษัทเกือบ 1,000 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซา มาเลเซีย (Bursa Malaysia) และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) 1.2 ล้านแห่ง LCOS ขับเคลื่อนโดย EnOSTM Ark ซึ่งเป็นโซลูชันการจัดการคาร์บอนของเอนวิชัน ดิจิทัล โดยช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักสามารถกระตุ้นการขจัดคาร์บอนและเร่งการเปลี่ยนให้เป็นดิจิทัล และรับข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับคาร์บอนฟุตพริ้นท์

ชัมซุล บาฮาร์ โมห์ด นอร์ (Ts. Shamsul Bahar Mohd Nor) ซีอีโอของ MGTC กล่าวว่า “การทำให้การปลดปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์หมายถึงการลดการสะสมมลพิษในชั้นบรรยากาศที่ทำให้โลกของเราอุ่นขึ้น ด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้น โลกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่แก้ไขไม่ได้หลายประการ ปัญหาต่าง ๆ เช่น การขาดแคลนอาหารและน้ำ สภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ และการแพร่ระบาดของโรค อาจส่งผลกระทบต่อมนุษยชาติและคนรุ่นต่อไปในอนาคต”

เขากล่าวเสริมว่า “หลายบริษัททั่วโลกกำลังเริ่มดำเนินการในการเปลี่ยนผ่านสู่การปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และการลดคาร์บอนเป็นส่วนแรกและสำคัญที่สุดของวาระนี้อย่างไม่ต้องสงสัย การเป็นหุ้นส่วนของเรากับเอนวิชัน ดิจิทัล จะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ วัดการปลดปล่อยคาร์บอน จัดการกิจกรรมทางธุรกิจ และดำเนินการเพื่อลดการปล่อยมลพิษได้ โอกาสนี้จะปูทางให้เราส่งเสริมเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และบรรลุภารกิจระดับชาติในการสร้างประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593”

ไมเคิล ดิง (Michael Ding) กรรมการบริหารระดับโลกของเอนวิชัน ดิจิทัล (Envision Digital) กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับ MGTC เพื่อช่วยเร่งความพยายามในการลดคาร์บอนของมาเลเซีย และเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจที่ปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนมีความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษทั่วโลก และเราเชื่อว่างานของเรากับมาเลเซียเป็นเหมือนแสงส่องทางให้กับความคิดริเริ่มระดับชาติอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน เพื่อเร่งการเดินทางสู่การปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์”

เกี่ยวกับองค์กรการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งมาเลเซีย (MGTC)

MGTC เป็นหน่วยงานของกระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำ (KASA) ที่ได้รับมอบหมายให้ขับเคลื่อนประเทศในขอบเขตของการเร่งการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การยกระดับการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นโยบายระดับชาติสามประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (NGTP) นโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (NCCP) และแผนแม่บทเทคโนโลยีสีเขียว (GTMP) เป็นตัวกำหนดบทบาทของ MGTC ในฐานะตัวเร่งสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจสีเขียว

หน้าที่หลักของ MGTC คือการบรรลุเป้าหมายของมาเลเซียในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) สุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 โดยลดการปล่อย GHG แบบไม่มีเงื่อนไขลง 45% เมื่อเทียบกับระดับความเข้มข้นในปี 2548 ให้ได้ภายในปี 2573 เพิ่มมูลค่าทาง GDP ให้ได้ 1 แสนล้านริงกิตในภาคเทคโนโลยีสีเขียว และสร้างโอกาสงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 230,000 ตำแหน่ง

เกี่ยวกับเอนวิชัน ดิจิทัล

เอนวิชัน ดิจิทัล (Envision Digital) เป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีการปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ชั้นนำของโลกสำหรับองค์กร รัฐบาล และเมืองต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งความก้าวหน้าสู่พลังงานที่ปราศจากการปลดปล่อยคาร์บอนและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของมวลมนุษยชาติทั้งหมด แพลตฟอร์มการปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ EnOS™ ของบริษัท จัดการอุปกรณ์กว่า 220 ล้านเครื่องและกระแสไฟฟ้า 500 กิกะวัตต์ ซึ่งขับเคลื่อนโซลูชัน IIOT แบบครบวงจรที่กำหนดค่าได้ในระดับสูง ซึ่งใช้ AI เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และต้นทุน ปรับปรุงผลตอบแทนจากเงินทุน และทำให้การรายงานและการปฏิบัติตามข้อกำหนดง่ายขึ้น

บริษัทมีพนักงานมากกว่า 1,000 คนและสำนักงาน 14 แห่งทั่วสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp