มิติหุ้น-บล.เมย์แบงก์ เปิดเผยว่า คาดกำไรสุทธิหลัก Q3/65 ที่ 38 ล้านบาท (-0.9% YoY, +3.8% QoQ) จากรายได้ 103 ล้านบาท (+1.0% YoY, +2.9% QoQ) ซึ่งรายได้ Q3/65 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 2.9% QoQ เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 ของจีนตั้งแต่วันที่1 มิ.ย. เป็นปัจจัยหนุนให้การ นำเข้า-ส่งออกระหว่างจีนและไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรจะลดลง 0.9% YoY แม้ว่า รายได้จะเติบโตเล็กน้อย YoY เป็นผลมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจาก 80.6% ในไตรมาส 3/64 เป็น 78.5% ในไตรมาส 3/65 เนื่องจากมีการจ้างนักพัฒนาซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้น
ส่วนผลงาน Q4/65 คาดแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 54 ล้านบาท (+20.5% YoY, +44.1% QoQ) จากประมาณการกำไรทั้งหมด 54 ล้านบาท ซึ่ง 44 ล้านบาทน่าจะมาจากธุรกิจที่มีอยู่ปัจจุบัน ขณะที่อีก 10 ล้านบาทจะมาจากการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับโครงการไปรษณีย์ ไทยที่เรียกว่า Total Document Handling (TDH) ฝ่ายวิจัยคาดว่าโครงการ TDH จะสร้างรายได้30 ล้านบาท (กำไร10 ล้านบาท) ในQ4/65 และ 70 ล้านบาท (กำไร22 ล้านบาท) ในปี66 ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 33.50 บาท
@mitihoonwealth