มิติหุ้น-ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในปี 65 นี้ มีหุ้นขนาดใหญ่เข้าระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 2 บริษัท คือ TLI และ BTG มาร์เก็ตแคป 1.8 แสนลบ. และ 7.7 หมื่นลบ. ตามลำดับ โดยมี บล.เกียรตินาคินภัทร ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
หุ้นทั้ง 2 ตัว มาตามสูตร เดินตามรอยกันเป๊ะๆ แบบไม่ได้นัดหมาย หุ้นไซด์ใหญ่ ราคาต่ำจอง และจัดสรรหุ้นส่วนเกินไว้ เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้นในตลาดรอง ประกาศสวยหรูว่ามีไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้นในตลาดรอง แต่พอเอาเข้าจริงไม่เคยใช้ มีไว้เป็นพร็อพ
เกิดอะไรขึ้นกับ “เกียรตินาคินภัทร” กันแน่ ร่างเดิมคือ บล.ภัทร แต่แม่ทัพขับเคลื่อนฝ่ายไอบี ไม่ได้เปลี่ยนโฉม “อนุวัฒน์ ร่วมสุข” กรรมการผู้จัดการ ประธานสายตลาดทุน บล.เกียรตินาคินภัทร ลูกหม้อดั้งเดิมของ บล.ภัทร โบรกฯที่รับงานไอบีเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่เท่านั้น ไม่ใหญ่จริง ไม่มีสิทธิใช้บริการ
ผลงานในอดีตไม่อาจสามารถการันตีผลงานในอนาคตได้ หลังจากเจอภาวะ “หุ้นต่ำจอง” 2 ตัว ซ้อน TLI อาจด้วยจังหวะภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้อ แต่เกิดกับ BTG อีกครั้ง ท่ามกลางดัชนีหุ้นพุ่งยืนเหนือระดับ 1600 จุด ทำให้เกิดคำถามว่า ความผิดพลาด มันเกิดขึ้นจากจุดไหน ไม่ว่าจะเป็น สัดส่วนการกระจายหุ้น การกำหนดราคาเสนอขาย หรือแม้แต่การสื่อสารกับผู้ลงทุน
สงสารนักลงทุนที่จองซื้อหุ้น เพราะพบว่าซื้อในกระดานได้ราคาถูกกว่า ขณะเดียวกันสงสารเจ้าของหุ้น แม้ว่าจะได้เงินระดมทุนไปเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ถูกตราหน้าว่า เป็นหุ้นต่ำจอง การจะฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับมา เรียกได้ว่า ยากเย็นแสนเข็น ดูได้จากTLI กำไรไม่ได้ขี้เหร่ ยิ่งท่ามกลางดอกเบี้ยขาขึ้น ได้ประโยชน์เต็ม ๆ แต่จนบัดนี้ราคายังไม่พ้นหลุมดำ
หรือแม้แต่ SET เองไม่สามารถอวดเต็มปากเต็มคำว่าปีนี้ประสบความสำเร็จ ผลักดันหุ้นขนาดใหญ่เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นได้สำเร็จ คงทำได้เพียงอ้อม ๆ แอ้ม ๆ นับรวมไปในผลงานปีนี้แค่นั้นเอง
@mitihoonwealth