มิติหุ้น – นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) ผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 3/2565 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 5,185 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 28.60% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 1,205 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 0.33 % จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากยอดสินเชื่อคงค้างที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีสินเชื่อคงค้างกว่า 114,586 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่งวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 14,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 22.68 % ขณะที่มีกำไรสุทธิ 3,961 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3.04% จากงวดเดียวกันปีก่อน
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 มีการเปิดสาขาใหม่เพิ่มเป็น จำนวน 748 สาขา ส่งผลให้บริษัทฯ มีสาขา 6,547 แห่ง กระจายทั่วประเทศ
“ในช่วงไตรมาส 3/65 ภาพรวมของความต้องการสินเชื่อยังเติบโตได้ดี และมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง ขณะเดียวกันความสามารถในการผ่อนชำระลูกหนี้ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ดีขึ้นความต้องการใช้เงินสูงขึ้น จึงทำให้มั่นใจว่าพอร์ตสินเชื่อรวมปีนี้จะเติบโตได้ 30-35% ตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะเดียวกันยังคงเดินหน้าขยายสาขา เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมีจำนวนสาขาให้บริการทั้งหมด 6,547 สาขา รวมทั้งมีแผนขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย” ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทฯที่มีจำนวนสาขา และลูกค้ามากที่สุดในประเทศไทย เพื่อให้สามารถบริการแก่ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อได้อย่างทั่วถึง และกระจายในวงกว้างมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯยังคงตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อพุ่งแตะระดับ 120,000 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจหลักคือ เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) และธุรกิจที่ตั้งขึ้นใหม่ คือ เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) และเมืองไทย เพย์ เลเทอร์ (MTPL) เป็นธุรกิจที่จะเข้ามาสนับสนุน โดยมีการวางแผนการทำตลาดทั้งลูกค้าเดิมที่มีประวัติการชำระหนี้ดี และการรุกขยายฐานลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการใช้บริการผ่านการดำเนินงานของสาขาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันบริษัทฯยังคงเป้าหมายในระยะยาว โดยภายในปี 2569 บริษัทฯยังคงเชื่อมั่นว่าพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตทะลุ 2 แสนล้านบาทได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับการสนับสนุนวงเงิน มูลค่า 6,200 ล้านบาท จาก องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และ ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) ซึ่งเป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อการเป็นผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ของประเทศไทย และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ (United Nations) ซึ่ง MTC ถือเป็นมาตรฐานในการเสริมศักยภาพของแผนพัฒนาบริษัทฯได้เป็นอย่างดี
@mitihoonwealth