มิติหุ้น-ATP30 เผยผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 65 รายได้ 478.37 ล้านบาท โต 34.64% กำไร 29.79 ล้านบาท ทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/65 เติบโตต่อเนื่อง พร้อมเร่งให้บริการรถไฟฟ้าชุดแรกจำนวน 5 คัน ก่อนสิ้นปี รับอานิสงส์เทรนด์ลดคาร์บอน มั่นใจผลประกอบการปี 65 โตตามเป้าหมาย 25% รายได้แตะ 600 ล้านบาท
นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) (ATP30) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 478.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 355.28 ล้านบาท จำนวน 123.09 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 34.64% และมีกำไรสุทธิ 29.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 23.78 ล้านบาท จำนวน 6.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.27%
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2565 มีรายได้รวม 166.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 135.39 ล้านบาท จำนวน 31.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.97% และมีกำไรสุทธิ 5.52 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12.52 ล้านบาท
ทั้งนี้ผลประกอบการงวด 9 เดือนปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบริษัทให้บริการรถรับส่งพนักงาน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนจำนวน 148 คัน ขณะที่กำไรไตรมาส 3 ปี 2565 ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสภาพรถเพื่อให้บริการลูกค้าที่ใช้บริการครบกำหนดสัญญายังคงใช้รถเดิมต่อไปในระยะยาว จำนวน 26 คัน คิดเป็นประมาณ 6 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว
โดยหากดูเฉพาะกำไรจากการดำเนินงาน ถือว่าเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน (นอกจากนี้บริษัทยังมีสัญญาที่ยังไม่ได้รับรู้รายได้อีกจำนวน 1,341.62ล้านบาทโดยมีรถโดยสารที่ให้บริการจำนวน 664 คัน ประกอบด้วย รถบัสจำนวน 271 คัน รถมินิบัสจำนวน 44 คัน รถตู้วีไอพี/รถตู้จำนวน 274 คัน รถตู้ไฟฟ้าจำนวน 2 คันและรถร่วมบริการจำนวน 73 คัน)
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 บริษัทเตรียมให้บริการรถบัสไฟฟ้ารับ-ส่งพนักงานเพิ่มเติม วางแผนจัดหารถจำนวน 5 คันภายในปีนี้ โดยตั้งงบการลงทุนประมาณ 18 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวครอบคลุมทั้ง การจัดหารถบัสไฟฟ้า การติดตั้งสถานีชาร์จไฟ รวมถึงการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์
“บริษัทได้ศึกษาและเตรียมความพร้อมในการให้บริการรถบัสไฟฟ้ามาระยะหนึ่งแล้ว พบว่าในระยะยาวจะสามารถลดต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์ จากนโยบายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของภาคอุตสาหกรรมและภาคการบริการในประเทศ เชื่อว่าจะส่งผลให้โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัท หันมาใช้บริการรถบัสไฟฟ้ามากขึ้น ถือเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า และเพื่อเป็นการขยายฐานรายได้ของบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต” นายปิยะ กล่าว
ขณะที่ การให้บริการรถรับส่งพนักงานซึ่งเป็นธุรกิจหลัก แนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดี แม้ว่าราคาน้ำมันยังค่อนข้างผันผวน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงบริหารความเสี่ยงในกรณีดังกล่าว เพื่อควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม มั่นใจว่าผลประกอบการปี 2565 จะสามารถโตตามเป้าหมาย 25% รายได้แตะ 600 ล้านบาท
@mitihoonwealth