ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือกระทรวงการต่างประเทศ กลุ่มบริษัทบางจาก เอสซีจี และโออาร์ ขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำผ่านโครงการ Care the Bear “ลดโลกร้อน” ในการประชุมเอเปค 2565

79

มิติหุ้น  –  ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชูศักยภาพบริษัทจดทะเบียนไทย ตอกย้ำความเป็นตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำ ด้วยเป้าหมายการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนในการประชุมเอเปค 2565 พร้อมจับมือกระทรวงการต่างประเทศและพันธมิตร ขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำผ่านโครงการ Care the Bear “ลดโลกร้อน” โดยการนำหลักปฏิบัติ 6 Cares มาใช้ใน “ศูนย์ข่าวสีเขียว” เพื่อเป็นต้นแบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มค่า และบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจรและเป็นรูปธรรม โดยพันธมิตรตลาดทุนที่บูรณาการการทำงานร่วมกัน ได้แก่ กลุ่มบริษัทบางจาก ที่ร่วมประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมจัดหาคาร์บอนเครดิตมาชดเชย ด้าน เอสซีจี สนับสนุนนวัตกรรมกระดาษรีไซเคิลได้ สำหรับตกแต่งงานประชุมเพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า รวมทั้ง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ที่นำขยะพลาสติกสู่กระบวนการ Circular Economy หลังเสร็จสิ้นงาน พร้อมต้อนรับสื่อมวลชนจากทั่วโลกกว่า 3,000 ราย ระหว่าง 14-19 พฤศจิกายน 2565 ที่ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การจัดการประชุมเอเปค 2565 ประเทศไทยได้มุ่งเน้นส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุลโดยการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีแนวคิด Bio  Circular  Green Economy Model (BCG) เป็นพื้นฐานสำคัญ โดยพื้นที่ศูนย์ข่าวของการประชุมซึ่งจะรองรับสื่อมวลชนจากทั่วโลกกว่า 3,000 รายที่เดินทางมาร่วมงาน จะนำเสนอเป็น “ศูนย์ข่าวสีเขียว” ที่สะท้อนศักยภาพของไทยในการขับเคลื่อนความยั่งยืนโดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านบูธและนิทรรศการของภาคส่วนต่าง ๆ ที่ผลิตจากวัสดุหมุนเวียน คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ขณะที่การบริหารจัดการขยะจะทำอย่างครบวงจร สามารถติดตามผลและนำไปสู่เป้าหมายในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกลดโลกร้อน

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมเป็น APEC Communication Partner สื่อสารการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปค 2565 และร่วมออกบูธแสดงศักยภาพของตลาดทุนไทย และบทบาทการส่งเสริมการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน นอกจากนี้ ได้ร่วมมือกับกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และพันธมิตรนำโครงการ Care the Bear “ลดโลกร้อน” หนึ่งในโครงการภายใต้แพลตฟอร์มความร่วมมือลดภาวะโลกร้อน (Climate Care Collaboration Platform) มาสนับสนุนการจัดการพื้นที่ “ศูนย์ข่าวสีเขียว” ในการประชุมเอเปค 2565 ครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงพื้นที่จัดบูธนิทรรศการขององค์กรต่าง ๆ ที่ชั้น LG รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 22,000 ตารางเมตร เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานและทรัพยากรในการจัดกิจกรรม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยส่งเสริมให้องค์กรที่ร่วมออกบูธในงาน รวมทั้งผู้ร่วมงาน เข้าใจและนำหลักปฏิบัติ 6 Cares ไปใช้ ซึ่งประกอบด้วย การเดินทางโดยรถสาธารณะหรือเดินทางมาร่วมกัน การลดใช้กระดาษและพลาสติก การงดการใช้โฟม การลดใช้พลังงาน การใช้วัสดุตกแต่งที่สามารถกลับมาใช้ใหม่ได้ และการลดขยะจากอาหารเหลือทิ้ง และข้อมูลจากการดำเนินการตามหลัก 6 Cares จะถูกนำไปประเมินการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในงาน

“ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการพัฒนาแพลตฟอร์มความร่วมมือลดภาวะโลกร้อน (Climate Care Collaboration Platform) โดยการนำโครงการ “Care the Bear” มาสนับสนุนการจัดการประชุมเอเปค 2565 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ภายใต้ความร่วมมือของกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และพันธมิตร มุ่งหวังให้นานาประเทศเห็นถึงการขับเคลื่อนความยั่งยืนดูแลสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ที่ปฏิบัติได้จริง วัดผลได้ เป็นต้นแบบและนำไปสู่การสร้างมาตรฐานใหม่ในการจัดการสิ่งแวดล้อมขององค์กรต่าง ๆ และขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต

 พันธมิตรตลาดทุนที่ร่วมโครงการ Care the Bear ภายในศูนย์ข่าวสีเขียวในการประชุมเอเปค 2565 ระหว่าง 14-19 พฤศจิกายน 2565 ได้แก่ กลุ่มบริษัทบางจาก ซึ่งจะประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมจัดหาคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยผ่าน Carbon Markets Club มาชดเชย ด้าน เอสซีจี สนับสนุนนวัตกรรมกระดาษรีไซเคิลสำหรับตกแต่งงานประชุม เช่น ฉากถ่ายภาพ จุดทิ้งขยะ โดยหลังใช้งานเสร็จสามารถนำไปรีไซเคิลเป็นชั้นวางหนังสือ ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) รวมทั้ง โออาร์ ที่สนับสนุนจุดแยกขยะ และนำขยะพลาสติกไปสู่กระบวนการรีไซเคิลและอัพไซคลิ่งให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์นำกลับมาใช้งานใหม่ได้ เพื่อสนับสนุนแนวคิด BCG Economy ของการประชุม APEC ในครั้งนี้ นับว่าภาคธุรกิจแต่ละรายได้นำเอาความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อให้การดำเนินการครอบคลุมในทุกมิติ” นายภากรกล่าว

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp