ACG ประกาศกำไร Q3’65 ดีกว่าที่คาด มั่นใจยอดขายโค้งสุดท้ายแจ่ม

68

มิติหุ้น  –  นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (ACG) เปิดเผยว่า “ผลประกอบการไตรมาส 3/2565 รายได้รวมของกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 1,314.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116.80 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.75 แม้ว่าผลกำไรจะลดลงเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้เพิ่มขึ้น มาจาก 2 ส่วนงานหลักของกลุ่มบริษัท คือ ส่วนงานจำหน่ายรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่ง ที่เพิ่มขึ้น 70.66 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.73 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นฮอนด้า HR-V 2022 ที่กระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้น อีกทั้งปีก่อนมีการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อยอดขายในปี 2564 สำหรับรายได้จากส่วนงานบริการซ่อมบำรุงและจำหน่ายอะไหล่ เพิ่มขึ้น 46.14 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.24 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 ปัจจัยหลักมาจากการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นของออโตคลิก 4 สาขาในระหว่างงวด”

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ACG กล่าวต่ออีกว่า “แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/65 ของกลุ่มบริษัทคาดว่าจะดีขึ้น สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่บรรเทาลง ทำให้ปัญหาการขาดแคลนชิปของตลาดรถยนต์ลดลง ซึ่งฮอนด้าเร่งสร้างยอดขายในช่วงโค้งสุดท้าย เตรียมจัดแคมเปญดอกเบี้ย ฮอนด้ามะลิวัลย์มีลุ้นยอดขายพุ่งขึ้น”

 

“ในช่วงที่ผ่านมายอดขายและยอดซ่อมของฮอนด้ามะลิวัลย์เริ่มกลับมาฟื้นตัวด้วยผู้บริโภคเริ่มมีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจมากขึ้น โดยปัจจุบันฮอนด้ามะลิวัลย์ มีสาขาให้บริการใน 5 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และพร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร ทั้งบริการก่อนและหลังการขาย ภายใต้ทีมงานที่มีคุณภาพ”

 

“ในส่วนของธุรกิจน้องใหม่ ศูนย์บริการรถยนต์ทุกยี่ห้อประเภทเร่งด่วน (Fast Fit) บริษัท ออโตคลิกบายเอซีจี จำกัด ที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2563 โดย ณ ไตรมาส 3/2565 ได้เปิดให้บริการไปแล้ว 9 สาขา ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต 2 สาขา จังหวัดกรุงเทพและปริมณฑล 6 สาขา และจังหวัดเชียงใหม่ 1 สาขา ปัจจุบันเปิดดำเนินการเพิ่มอีก 1 แห่งแล้วที่จังหวัดนนทบุรี และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 1 สาขา คาดว่าปลายปีนี้พร้อมเปิดให้บริการ อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของออโตคลิกยังคงมีผลการดำเนินงานที่ขาดทุนอยู่ ด้วยค่าใช้จ่ายในการเตรียมความพร้อมของการเปิดสาขา รวมถึงค่าส่งเสริมทางการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักของลูกค้า”

 

“ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าโค้งสุดท้ายในปีนี้ ยอดซ่อมจะสูงขึ้น และจะยังคงเดินหน้าตามแผนการขยายสาขาที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง รุกไปยังพื้นที่จังหวัดเศรษฐกิจดีตามหัวเมืองใหญ่ๆ ซึ่งเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะสามารถเดินได้ตามแผน โดยปลายปีนี้เปิดเพิ่มอีก 1 สาขาอย่างแน่นอนในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีฐานกว้างขึ้น ในอนาคตธุรกิจนี้จะช่วยผลักดันรายได้ของกลุ่มบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น”

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp