มิติหุ้น-เป็นที่รู้กันว่าเกมส์ลากรายย่อยไปเชือดของ MORE จบเกมส์ลงอย่าง “ happy ending” โดยวงในเปิดเผยแบบหมดเปลือกว่า ต้นทุนรายใหญ่ถูกแสนถูกเพียงแค่หุ้นละ 0.50 บาทเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่กลุ่มทุนกลุ่มนี้จะเทขายทำกำไรออกมาได้ทุกราคาโดยไม่สะทกสะท้าน และไม่ละอายแก่ใจคว้ากำไรเข้ากระเป๋าบนความทุกข์ของรายย่อย
ช่วงระหว่างฟลอร์แรกที่ระดับราคา 2.90 บาท ดิ่งลงมาที่ 1.95 บาท หน่วยงานรัฐควรจับตาและสอดส่องหรือหาวิธีป้องกันหรือมีคำตอบให้นักลงทุนถึงพัฒนาการของ MORE มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือมีนัยสำคัญอะไรหรือไม่ทำไมอยู่ๆ ราคาหุ้นถึงฟลอร์ ก่อนที่เหตุการณ์ไม่คาดฝันของเช้าวันที่ 2 ของการซื้อขายหุ้น MORE จะเกิดขึ้นอีกโดยราคาหุ้นกระพริบหล่นเป็นฟลอร์ที่ 2 จากราคา 1.95 บาทร่วงตุ๊บลงมาที่ 1.37 บาท
คำถามคือบทบาทของหน่วยงานกำกับตลาดทุนทำอะไรอยู่ “ วัวหายแล้วล้อมคอก “ มันสายเกินไป มาร่อนหนังสือเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังก่อนเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ MORE เอาช่วงบ่ายของฟลอร์ที่ 2 ที่มันผ่านไป รายย่อยกระอักเลือดไปแล้ว หรือจะอ้างว่าขั้นตอนการทำงานต้องมีระบบระเบียบแบบแผน
อยากจะขอ “ไกด์ไลน์” แบบผู้อ่อนประสบการณ์ สิ่งแรกที่ทางการควรทำคือการขึ้นเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย ( H ) หุ้น MORE ก่อนที่จะเปิดตลาดร่วงฟลอร์2 ดักทางพวกสร้างผลประโยชน์กับรายย่อยและนักลงทุนในตลาดหุ้น ไม่ควรปล่อยให้ผู้ที่หาผลประโยชน์จากเกมส์หุ้นทำรายย่อยบาดเจ็บ MORE ถือเป็นบทเรียนอันล้ำค่า และเคสต่อไปอยากเห็นหน่วยงานรัฐมี “ แอ๊คชั่น “ คุ้มครองนักลงทุนได้มากกว่านี้
สิ่งที่ต้องตามต่อจากนี้ไปคือ งานนี้จะมีฟลอร์ที่ 3 อีกหรือไหมเพราะออฟเฟอร์ยังคงหนาแน่นมากหลังฟลอร์ 2 เกิดขึ้น แต่วงในปูดข่าวออกมาว่า มันจบแล้ววววววววว สิ่งเดียวคือเกาะติดและติดตามว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่และผู้บริหารใหม่จะเป็นใคร!!!!!!!!!!
@mitihoonwealth