มิติหุ้น – ดร.ปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) GSC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 3/2565 สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 เติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยมีกำไรสุทธิ 14,03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,324.38 % เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 0.99 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 35,32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.44% เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 29.32 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีกำไรสุทธิ 16.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.55 ล้านบาท หรือ 254.55% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 10.43 ล้านบาท และมีรายได้รวม 79.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.12 ล้านบาท หรือ 12.88% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 70.83 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมาจากธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล Outsource contact center และธุรกิจติดตามทวงถามหนี้ ซึ่งบริษัทขยายรูปแบบโดยการรับติดตามหนี้แบบลงพื้นที่ การขยายศูนย์ฯ ไปสู่ภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งธุรกิจซอฟต์แวร์ด้านธุรกิจบริการ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมทั้งมาจากธุรกิจใหม่ที่บริษัทขยายการลงทุน ได้แก่ ธุรกิจ AMC ผ่าน บริษัท บริหารสินทรัพย์แคปปิตอล เอเชีย จำกัด และธุรกิจ ด้านซอฟต์แวร์โรงแรม ผ่าน บริษัท โคแมนชี่ โกโกจิ จำกัด ซอฟต์แวร์ร้านอาหารผ่าน บริษัท ซินเนเจอร์ เทคโนโลยี จำกัด
“ การปรับโครงสร้างธุรกิจช่วยสร้างความแข็งแกร่งการเติบโตให้กับบริษัทฯ GSC มีทิศทางที่ดีและปรับตัวดีขึ้นเรื่อย ๆซึ่งใน ไตรมาส 3 นี้เป็นอีกไตรมาสที่บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมาโดยพลิกมีกำไร และเชื่อว่าช่วงที่เหลือก็ดีเช่นกัน จากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นในทุกส่วนของธุรกิจ จากปัจจัยดังกล่าวคาดว่าจะทำให้เป้าหมายรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 30% จากปีก่อน” ดร.ปุณฑรีก์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่ายังมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากมีการขยายงาน และรับงานต่อเนื่อง และยังอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อรับงานใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจ ด้านซอฟต์แวร์โรงแรม และร้านอาหารได้รับปัจจัยสนับสนุนจากฤดูกาลท่องเที่ยว การเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย ดังนั้นจากปัจจัยบวกต่าง ๆ ทำให้เชื่อว่าภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะยังคงสดใส ซึ่งถือเป็นสัญญาณดี จะช่วยสนับสนุนให้รายได้ และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาแผนลงทุนธุรกิจใหม่ เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม โดยเน้นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่มีความมั่นคง สามารถสร้างรายได้ประจำ และเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทฯ รวมทั้งมีความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโต ต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต รวมทั้งการก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการผ่านระบบสื่อสารและเทคโนโลยีแบบครบวงจร
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp