มิติหุ้น – นายจุติพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 3 ปี 2565 (1 ก.ค. – 30 ก.ย. 2565) มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 36.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีขาดทุนจากการดำเนินงาน 0.3 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วม SYNEX จำนวน 83.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5 ล้านบาท คิดเป็น 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วนรายได้จากการขายและการให้บริการ 392.3 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) 21.0 ล้านบาท หรือ 5% โดยมีปัจจัยหลักจากการลดลงของยอดขายกลุ่มธุรกิจบัตรพลาสติกจากการที่บริษัทฯ ได้ขายกลุ่มธุรกิจดังกล่าวออกไปในไตรมาส 3/2564 ที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2565 (QoQ) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นจำนวน 36.0 ล้านบาท หรือ 10% จากยอดขายกลุ่มธุรกิจการพิมพ์ป้องกันปลอดการปลอมแปลงที่มีการเติบโต โดยบริษัทฯยังสามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 28%
“ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2565 ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ทั้งในส่วนยอดขายและผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการบริหารต้นทุนการผลิตและควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการมุ่งเน้นการขยายกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง โดยยอดขายในไตรมาส 4/2565 จะเพิ่มขึ้นอีกจากงานโปรเจกต์ในมือ (Backlog) ที่จะรับรู้ในช่วงเดือน พ.ย. – ธ.ค. นอกจากนี้บริษัทยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วม SYNEX เพิ่มขึ้นอีกด้วย” นายจุติพันธุ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวมรายการพิเศษอยู่ที่ 605.8 ล้านบาท โดยบริษัทฯมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 127.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วม จำนวน 277 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็น 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 1,146.6 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 16% โดยมีปัจจัยหลักจากการลดลงของยอดขายกลุ่มธุรกิจบัตรพลาสติก
ในระหว่างไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ รับรู้กำไรพิเศษจากใบสำคัญแสดงสิทธิ จำนวน 201.3 ล้านบาท ในขณะที่ในไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ มีกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างธุรกิจกลุ่มธุรกิจบัตรพลาสติก จำนวน 776.1 ล้านบาท
ทั้งนี้ กลยุทธ์การดำเนินงานในปี 2565 ภาพธุรกิจของ TKS ได้เปลี่ยนไปเป็น Tech Ecosystem Builder มากขึ้น โดยบริษัทได้มุ่งเน้นการปรับแผนธุรกิจของบริษัทฯ มาอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัล โดยการพัฒนานวัตกรรมด้านระบบสารสนเทศ และได้ปรับโครงสร้างองค์กรในกลุ่มบริษัทให้เกิดผลผนึกทั้งด้านการพัฒนาตลาดและผลิตภัณฑ์ และด้านการลดต้นทุนการผลิตเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันโดยรวม สำหรับรักษาฐานลูกค้าเดิมควบคู่ไปกับการหาพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ ปัจจุบันบริษัทฯลงทุนใน 6 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
1. ธุรกิจผู้ให้บริการสิ่งพิมพ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและบริหารคลังสินค้า (Security & Fulfillment Solution) ผ่านการลงทุนในบริษัท ที.เค.เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด (SPM)
2. ธุรกิจผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์ต ผ่านการลงทุนในบริษัท โกไฟว์ จำกัด (GOFIVE)
3. ธุรกิจการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพหรือธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านการลงทุนในบริษัท เน็กซ์ เวนเจอร์ส จำกัด (NEXT VENTURES)
4. ธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทสินค้าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และระบบสารสนเทศ (IT Ecosystem) ผ่านการลงทุนในบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX
5. ธุรกิจพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเงิน (FinTech) ธุรกิจผลิตภัณฑ์และช่องทางการขายเข้าถึงลูกค้าที่มีระบบนิเวศของตัวเอง ผ่านการลงทุนในบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY และบริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTECH
6. ธุรกิจการนำเสนอโซลูชั่นและบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร ผ่านการลงทุนในบริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MSC
โดยภาพรวมผลการดำเนินงานยังเป็นไปตามที่คาด TKS ให้ความสนใจที่จะลงทุนจับมือพันธมิตรรายใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม ต่อยอดธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่ง แต่ต้องขึ้นอยู่กับศักยภาพของดีลนั้นๆ โดยไม่ได้จำกัดโอกาสในการลงทุน
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp